สำนักข่าวแห่งประเทศจีนรายงานว่า วานนี้ (24 มกราคม 2557)หนังสือพิมพ์เยอรมัน Frankfurter Allgemeine Zeitung ตีพิมพ์บทความรายงานข้อมูลว่า ในการประชุมเศรษฐกิจโลกที่เมืองดาวอสครั้งนี้ มีความเห็นจากผู้ร่วมประชุมโดยส่วนใหญ่ให้ความสนใจจีนมากกว่าอินเดียอย่างเห็นได้ชัด
บทความดังกล่าววิเคราะห์ว่า สาเหตุสำคัญเนื่องจากจีนมีผลงานทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา เห็นได้จากเงินสำรองระหว่างประเทศจำนวนมหาศาลของจีน นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า ถึงปี 2030 จีดีพีของจีนจะใกล้เคียงกับสหรัฐฯ และมีแนวโน้มเติบโตได้เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ คาดว่าภายในปี 2020 จะมีประชากร 200 ล้านคนเคลื่อนย้ายการทำงานจากชนบทเข้าสู่เมือง ซึ่งเป็นโอกาสของการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ แม้ว่าการประเมินอัตราเติบโตเศรษฐกิจประจำปีร้อยละ 7 จะยังคงเป็นการประเมินแบบอนุรักษ์นิยมก็ตาม
บทความนี้กล่าวด้วยว่า วงการเศรษฐกิจตะวันตกได้เปลี่ยนแปลงท่าทีที่เคยชื่นชมการเติบโตของอินเดียในอดีต แม้ว่าจีนกับอินเดียเป็นสมาชิกกลุ่มเศรษฐกิจบริคส์ แต่จากข้อมูลที่ปรากฎทำให้มีการประเมินว่า อนาคตของอินเดียจะขยายตัวและเติบโตช้ากว่าจีน
ตามสถิติจากธนาคารโลก รายได้เฉลี่ยต่อคนของอินเดียในปี 2012 อยู่ที่1,489 เหรียญสหรัฐฯ แต่จีนอยู่ที่ 6,091 เหรียญสหรัฐฯ วงการการเงินได้จัดให้อินเดียอยู่ในกลุ่มประเทศ 5 อันดับที่อ่อนเอทางเศรษฐกิจ ได้แก่ บราซิล อินโดนีเซีย ตุรกีและแอฟริกาใต้
(NUNE/zheng)