สถานีวิทยุซีอาร์ไอรายงานว่า เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้ ป.ป.ช.มีมติเป็นเอกฉันท์เรียก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีพบ ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว

นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษก ป.ป.ช. แถลงผลการประชุม ป.ป.ช.ว่า จากการไต่สวนพบว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว โดยเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ทางราชการตามอำนาจหน้าที่ ซ้ำยังสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวนา เพราะไม่สามารถจ่ายค่าจำนำข้าวให้แก่ชาวนาตามเวลากำหนด จึงมีมติเรียก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีพบในวันที่ 27 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 14.00 น. เพื่อให้ชี้แจงข้อกล่าวหาคดีโครงการรับจำนำข้าว หากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีความผิดจริง ป.ป.ช. จะยื่นฟ้องศาล เพื่อให้ถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรออกจากตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรี

วันเดียวกัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี แถลงทางโทรทัศน์ว่า เนื่องจากกลุ่มต่อต้านรัฐบาลขัดขวาง ทำให้รัฐบาลไม่สามารถนำเงินมาจ่ายค่าจำนำข้าวให้แก่ชาวนา วอนกลุ่มผู้ชุมนุมอย่าใช้เรื่องจำนำข้าวเป็นประโยชน์ทางการเมือง และสร้างความตึงเครียดทางการเมืองมากขึ้น ทั้งยังรับปากว่า รัฐบาลจะจ่ายค่าจำนำข้าวให้แก่ชาวนาโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม การหาแหล่งเงินกู้ของรัฐบาลประสบกับปัญหาอุปสรรคอย่างมาก ก่อนหน้านี้ ธนาคารออมสินเห็นด้วยให้เงินกู้ 20,000 ล้านบาทแก่ ธ.ก.ส เพื่อให้ ธ.ก.ส นำเงินกู้จำนวนนี้จ่ายค่าจำนำข้าวให้แก่ชาวนา แต่หลังมีการปล่อยกู้งวดแรก 5,000 ล้านบาท เกิดกระแสถอนเงินออกจากธนาคารออมสิน ทำให้ธนาคารต้องหยุดกู้ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้ และผู้อำนวยการธนาคารออมสินประกาศลาออกจากตำแหน่ง เพื่อแสดงความรับผิดชอบ

วันเดียวกัน ตำรวจ 25,000 นายใช้ปฏิบัติการขอคืนพื้นที่ 5 แห่งที่ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมยึดครอง พื้นที่ 5 แห่งนี้ประกอบด้วย ทำเนียบรัฐบาล ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพลังงาน และถนนราชดำเนินตั้งแต่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ถึงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ เพื่อให้ข้าราชการสามารถเข้าไปทำงานได้ เปิดการจราจร และให้โรงเรียนในพื้นที่เหล่านี้เปิดเรียนได้ตามปกติ ระหว่างใช้ปฏิบัติการขอคืนพื้นที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ เกิดปะทะกันระหว่างตำรวจกับกลุ่มผู้ชุมนุม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้แก๊สน้ำตา และกระสุนยางในการสลายกลุ่มผู้ชุมนุม และได้จับกุมผู้ชุมุนุมกว่า 100 คน พร้อมกันนั้น ตำรวจได้ตรวจพบอาวุธสงครามจำนวนหนึ่งจากพื้นที่ชุมนุมดังกล่าวด้วย

(YIN/cai)