เมื่อเทียบกับกรุงเคียฟแล้ว สถานการณ์ของเขตท้องที่บางแห่งของยูเครนมีความตึงเครียดยิ่งกว่า ที่เมืองอิวานโน – ฟรานกิฟส์ค มีการจัดชุมนุมประท้วงขนาดใหญ่เพื่อสนับสนุนผู้ประท้วงในกรุงเคียฟ มีผู้เข้าร่วมเกือบ 20,000 คน ส่วนใหญ่เป็นครูอาจารย์และนักเรียนนักศึกษา ผู้ประท้วงยังกล่าวว่าจะเดินทางไปกรุงเคียฟเพื่อร่วมชุมนุมประท้วงในเมืองหลวง ขณะเดียวกันที่เมืองละวิฟและเมืองโปลตาวา ประท้วงส่วนหนึ่งพยายามบุกเข้าอาคารกรมกิจการภายใน กรมความมั่นคงและที่ทำการของรัฐบาล เป็นต้น
ด้านรัฐบาลยูเครนประกาศข่าวล่าสุดว่า จำนวนผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บเพิ่มมากขึ้น จนถึงเวลา 18.00 น. วันที่ 19 กุมภาพันธ์ตามเวลาท้องถิ่น จำนวนผู้เสียงชีวิตจากเหตุการณ์ปะทะนองเลือดเพิ่มเป็น 26 คน ผู้ประท้วงที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นเป็น 426 คน
วันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แกนนำฝ่ายต่อต้านรัฐบาลยูเครนที่สำคัญ 3 กลุ่มประกาศแถลงการณ์ร่วมว่าจะใช้ความพยายามสุดขีดความสามารถเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์นองเลือดอีกครั้ง และเรียกร้องให้นายวิกเตอร์ ยานูโควิชประธานาธิบดียูเครนหยุดสงครามทุกด้าน ถอนกำลังตำรวจออกจากจัตุรัสเอกราช และหยุดการกดดันผู้ชุมนุมประท้วง
วันเดียวกัน นายโอเลกซานด์ ยาคิเมนโก หัวหน้าสำนักงานด้านความมั่นคงแห่งชาติยูเครนประกาศแถลงการณ์ว่า มีกลุ่มผู้ร้ายใช้กำลังรุนแรงอย่างมีเจตนาด้วยรูปแบบฆาตกรรม จี้ตัว จุดไฟเผาและข่มขู่พลเมือง เพื่อบรรลุเป้าหมายของตน นี่เป็นการกระทำของลัทธิก่อการร้าย กลุ่มหัวรุนแรงกำลังคุกคามชีวิตความปลอดภัยของประชาชนยูเครน ดังนั้น สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติจะใช้ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายทั่วประเทศ ต่อจากนั้น กระทรวงกลาโหมยูเครนประกาศว่า ทหารยูเครนอาจจะเข้าร่วมปฏิบัติการครั้งนี้ด้วย (In/Lin)
