จนถึงคืนวันที่ 11 มีนาคม เครื่องบินเที่ยวบิน MH370 ของสายการบินมาเลเซียขาดการติดต่อนานกว่า 90 ชั่วโมง ตั้งแต่เครื่องบินลำนี้หายไหปอย่างไร้ร่อยรอยเป็นต้นมา มีข่าวอย่างต่อเนื่อง หลายประเทศขยายบริเวณค้นหาอย่างเต็มกำลัง ประชาชนทั่วโลกร่วมภาวนาให้ผู้โดยสารและลูกเรือบนเครื่อง
สายการบินมาเลเซียเปิดเผยเมื่อค่ำวันที่ 11 มีนาคมว่า พื้นที่ค้นหาขยายกว้างขึ้นอีกจนครอบคลุมน่านน้ำทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกของคาบสมุทรมลายูแล้ว จีน ไทย เวียดนาม สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซียและบรูไนร่วมส่งเรือจำนวน 42 ลำและเครื่องบินอีก 35 ลำปฏิบัติการค้นหาทั้งในน้ำและกลางอากาศ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ทหารมาเลเซียเผยเมื่อวันที่ 11 มีนาคมว่า เชื่อว่า เรดาร์คงเคยตรวจพบเครื่องบินที่สูญหายบินผ่านน่านฟ้าช่องแคบมะละกา เวลาสุดท้ายที่เที่ยวบินลำนี้ยังอยู่ในเรดาร์ติดตามของกองทัพมาเลเซียคือเวลา 02.40 น.ตามเวลาปักกิ่ง โดยมีตำแหน่งใกล้เกาะปูเลา เปรัค (Pulau Perak)ของมาเลเซีย สูงกว่าระดับน้ำทะเล 9,000 เมตร ต่อจากนั้นก็หายจากคลื่นเรดาร์
เมื่อวันที่ 10 มีนาคม เรือปฏิบัติการตำรวจน้ำของจีนพบคราบน้ำมันสองแถวในน่านน้ำบริเวณที่ต้องสงสัยว่าเป็นจุดที่เครื่องบินตก ขณะนี้ตัวอย่างคราบน้ำมันยังอยู่ในกระบวนการวิเคราะห์เปรียบเทียบ และจะประกาศผลในวันที่ 12 มีนาคม
เมื่อเวลา 16.40 น.วันที่ 11 มีนาคม เรือรบไห่โข่ว ซึ่งเป็นเรือพิฆาตด้วยขีปนาวุธของจีนเดินทางถึงเป้าหมายปลายทาง ร่วมปฏิบัติการค้นหากับเรือรบเหมียนหยางและเรือรบจิ่งกังซานของจีน ส่วนเรือรบคุนหลุนซาน ซึ่งเป็นเรือสะเทินน้ำสะเทินบกของจีนก็จะเดินทางถึงน่านน้ำทะเลค้นหาในเวลา 08.00 น.วันที่ 12 มีนาคม
เมื่อวันที่ 11 มีนาคม กองทัพอากาศจีนส่งเครื่องบิน 2 ลำไปปฏิบัติหน้าที่ค้นหาเครื่องบินมาเลเซียที่ขาดการติดต่อ สถาบันรีโมทเซนซิ่งและโลกดิจิตอล สภาวิทยาศาสตร์จีน หรือ Institute of Remote Sensing and Digital Earth Chinese Academy of Sciences ก็ได้ระดมดาวเทียมทุกประเภทของจีนรวบรวมข้อมูลข่าวสารของเครื่องบินมาเลเซียที่สูญหายไปให้กองทัพเรือ ตำรวจน้ำและศูนย์ค้นหาทางทะเลของจีน
ข่าวเครื่องบินมาเลเซียขาดการติดต่อเป็นที่จับตามองของทั่วโลก ญี่ปุ่น อินโดนีเซียและอีกหลายประเทศทยอยกันแสดงท่าทีช่วยค้นหา
IN/FENG