การประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีนกำลังจัดขึ้นที่กรุงปักกิ่ง ได้ผ่านแผนปฏิรูปฉบับต่างๆ ที่ประชุมอย่างต่อเนื่อง กล่าวได้ว่า การปฏิรูปทุกประการล้วนเพื่อปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของประชนให้ดีขึ้น ซึ่งเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของชาวจีนเกือบทุกคน
นายเหลย อิ้งกั๋ว เป็นชาวนา อายุ 30 กว่าปี นับเป็นวัยที่กำลังมีความมั่นในการก่อร่างสร้างตัว เขาวาดฝันไว้ตลอด บางที เมื่อเจอกับเพื่อนสนิท เขามักจะเปิดสมาร์ทโฟน โชว์ภาพการวางผังที่ทำกินของเขา โดยมีที่ดินทำนากว้างขวางและโรงสีทันสมัยตั้งอยู่ในเขตเขาสีเขียว
เขากล่าวว่า 3 ปีให้หลัง ความฝันของผมก็จะกลายเป็นจริงขึ้น ปัจจุบัน เขาเป็นประธานสหกรณ์การเกษตรมืออาชีพอำเภอสิ้วซื่อเมืองเฟิงเฉิงมณฑลเจียงซี และได้บุกเบิกหมู่บ้านเพาะปลูกเชิงนิเวศในพื้นที่ชายขอบของอำเภอ โดยมีกิจการหลายอย่าง อาทิ การเพาะปลูก การผสมพันธุ์ แหล่งรวบรวมผลผลิตและการแปรรูป
หลายปีมานี้ โยบายด้านการเกษตรที่ทางการประกาศนั้น ทำให้นายเหลย อิ้งกั๋วสามารถใช้ความพยายามของเขา ขยายพื้นที่เพาะปลูกจาก 250 โหม่วเป็น 2,700 โหม่ว จีน รายได้ต่อปีเกินกว่า 5 แสนหยวน ราวประมาณ 2.5 ล้านบาท ทำให้เขากลายเป็นชาวนาผู้ปลูกข้าวรายใหญ่ที่สุดในอำเภอนี้
ช่วง 15 ปีที่ผ่านมา ชีวิตของนายเหลย อิ้งกั๋ว เกิดการเปลี่ยนแปลงพร้อมๆ กับกระบวนการปฏิรูปของจีน เมื่อปี 1999 เขาจบจากโรงเรียนอาชีวศึกษาขณะอายุ 18 ปี และจะเข้าทำงานในสหกรณ์จำหน่ายผลผลิตการเกษตรที่ทางการท้องถิ่นจัดให้ แต่เนื่องจากสภาพการดำเนินงานของสหกรณ์ขาดทุนอย่างหนัก ทางการจีนมีนโยบายยกเลิกสหกรณ์ส่วนใหญ่ทั่วประเทศ ทำให้เขาตกงานทันที และได้รับเงินชดเชย 3,000 หยวนจากรัฐบาลให้ไปหางานทำเอง
ต่อจากนั้น นายเหลย อิ้งกั๋วได้ประกอบธุรกิจส่วนตัวหลายอย่าง อาทิ ขายผลไม้หรือผักสดริมถนน เปิดร้านถ่ายภาพ ค้าวัตถุการเกษตร เป็นต้น ล้วนไม่สำเร็จ จนถึงปี 2005 เขามีโอกาสดี มีความมุ่งมั่นในกาทำนา โดยใช้เครื่องยนต์การเกษตรทำไร่ไถนาปลูกข้าวตามหลักวิทยาศาสตร์ มีพื้นที่เพาะปลูกค่อนข้างมาก หลังจากนั้น กิจการและชีวิตของเขาดีขึ้น เขากล่าวว่า ปัจจุบัน เขามีทั้งบ้าน รถยนต์ เมีย ลูก
ในฐานะที่เป็นประธานสหกรณ์ นายเหลย อิ้งกั๋ว ต้องวางแผนอนาคต ปี 2014 เขาตัดสินใจว่า จะไม่มุ่งขยายพื้นที่เพาะปลูกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่จะให้ความสำคัญกับการเพาะปลูกข้าวอินทรีย์ที่มีกำไรสูง และการแปรรูปข้าวนาดำ เป็นต้น และเขาเชื่อมั่นว่า ถ้าอยากพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ก็ต้องมีความคิดปฏิรูปอยู่ทุกเมื่อ
แล้วสำหรับประเทศจีนจะเกิดการเปลี่ยนแปลงยอย่างไร ประชาชนจีนล้วนจับจ้องไปยังการประชุม 2 สภาของปีนี้ เพราะประเด็นหลักของการประชุมในปีนี้คือ การปฏบัติตามนโยบายปฏิรูปทุกด้านให้ลึกยิ่งขึ้น การนี้มีส่วนเกี่ยวข้องที่อาจถึงขั้นพลิกชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือ เฉกเช่นนายเหลย อิ้งกั๋ว หรือแม้ไม่ถึงขนาดดีขึ้นทันตา ทว่าชาวจีนจำนวนนับล้านๆ คนที่เหมือนกับเขา ก็เฝ้าติดตามด้วยความหวัง
(In/Lin)