สิงค์โปร์มีพื้นที่เล็กเกินไปจนไม่เหมาะที่จะสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เพราะหากเกิดอุบัติเหตุ อาจกลายเป็นภัยพิบัติอย่างร้ายแรง
นอกจากนี้ สิงคโปร์ต้องอาศัยการนำเข้าสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวันบางอย่างจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ต้องนำเข้าน้ำจืดจากมาเลเซีย แต่ในด้านการผลิตไฟฟ้า สิงคโปร์สามารถตอบสนองความต้องการของตนได้ ซึ่งส่วนใหญ่อาศัยพลังงานจากก๊าซธรรมชาติผลิตไฟฟ้า เพราะไม่มีพื้นที่เพียงพอสำหรับสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำและพลังงานลม ถึงแม้อยู่ในแถบโซนร้อน มีแสงอาทิตย์พอเพียง แต่ไม่มีพื้นที่กว้างพอสำหรับติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่
แต่สิงคโปร์ประสงค์จะได้รับพลังงานไฟฟ้าด้วยช่องทางมากขึ้น โดยเฉพาะทุกวันนี้ พลังงานฟอสซิลนับวันน้อยลงทุกที และนิวเคลียร์ยังคงถือเป็นพลังงานที่สะอาด มีประสิทธิภาพสูงและปลอดภัย สิงคโปร์จึงเสนอให้ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเดียวกันร่วมกันพัฒนาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ โดยเฉพาะมาเลเซีย ประเทศเพื่อนบ้านของสิงคโปร์ แล้วค่อยนำเข้าไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อตอบสนองความต้องการไฟฟ้าของตน อีกทั้งไม่ต้องกังวลการเกิดอุบัติเหตุนิวเคลียร์ในดินแดนของตัวเองด้วย ที่สำคัญคือ ในความร่วมมือดังกล่าว สิงคโปร์จำเป็นต้องครองส่วนแบ่งทางเทคโนโลยีและเงินทุนมากพอสมควร เพื่อไม่ให้ประเทศอื่นหยุดจ่ายพลังงานไฟฟ้าตามอำเภอใจ