เมื่อเช้าวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา ตัวแทนหลายคนของ"สมาพันธ์สืบทอดและพัฒนาเจตนารมณ์นายโตมิอิชิ มูรายามา" อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น) เดินทางไปยังสถานทูตสหรัฐฯประจำญี่ปุ่นเพื่อพบกับเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำญี่ปุ่นและยื่นหนังสือประท้วงนายชินโซ อาเบะ นากยรัฐมนตรีญี่ปุ่น ที่เหยียบย่ำคำพูดของนายโตมิอิชิ มูรายามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ญี่ปุ่นกลายเป็นประเทศฝ่ายขวา และมีปัญหาความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้าน เช่น จีนและเกาหลีใต้
เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 1995 ที่ผ่านมา นายโตมิอิชิ มูรายามะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในสมัยนั้นกล่าวคำปราศรัยและยอมรับว่าญี่ปุ่นดำเนินนโยบายผิดพลาดที่ก่อสงคราม เขากล่าวว่า ญี่ปุ่นต้องทบทวนประวัติศาสตร์อย่างลึกซึ้ง และถือเป็นบทเรียนสำคัญต้องบอกเล่าความเลวร้ายของสงครามให้คนรุ่นใหม่รับทราบ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยอีก
นาย ฮิโรชิ ทานาคา ศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์มหาวิทยาลัยฮิโตะสึบะชิ นาย นาโอโตะ อามากิ อดีตเอกอัคราชทูตญี่ปุ่นประจำเลบานอน และนาย โนบุโยชิ ทากาชิมะ ศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์มหาวิทยาลัยริวกิวซึ่งเป็นตัวแทนที่ยื่นข้อเสนอได้จัดแถลงข่าวหลังยื่นหนังสือทักท้วง โดยกล่าวว่า ในขณะนี้ มีความกังวลต่อท่าทีของรัฐบาลชินโซ อาเบะในการตระหนักถึงข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ดังนั้น คำพูดของนายมูรายามายิ่งมีความสำคัญ ควรยึดถือต่อไป จึงหวังว่าสหรัฐฯจะเข้าร่วมการหารือด้านนี้ด้วย
เมื่อเดือนเมษายนของปีที่แล้ว นายชินโซ อาเบะ ที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นครั้งที่ 2 กล่าวในรัฐสภาญี่ปุ่นว่า คณะรัฐมนตรีจะไม่เปลี่ยนแปลงแนวทางและจะสืบทอดคำพูดของนายโตมิอิชิ มูรายามา แต่ต่อมาพบว่า วงการวิชาการและระหว่างประเทศยังไม่ได้นิยามคำว่าการรุกราน อย่างชัดเจน ทำให้สื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศประณามคำพูดนี้ของนายอาเบะ นอกจากนี้ นายอาเบะ ยังไปคารวะศาลเจ้ายาสุคูนิในปี2013 ทำให้เห็นว่ารัฐบาลญี่ปุ่นนิยมฝ่ายขวาและไม่ทำตามคำพูดที่เคยรับปากไว้ ดังนั้นสมาพันธ์ฯ จึงเรียกร้องให้สหรัฐฯควรใช้ท่าทีที่ชัดเจนในปัญหานี้
Nune/kt