สำนักข่าวซินหวารายงานว่า เมื่อวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา นายเจิง เผยหยัน รองประธานกรรมการการประชุมฟอรั่มเอเชียโป๋อ๋าว หัวหน้าผู้แทนจีนกล่าวคำปราศรัยในที่ประชุมย่อย "มองเศรษฐกิจเอเชียปี 2014 – พูดคุยกับกรรมการเอเชียโป๋อ๋าว" โดยแสดงความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจจีนและเศรษฐกิจโลกว่า มีความเป็นไปได้น้อยที่เกิดวิกฤตในประเทศเอเชียและประเทศที่รุ่งเรืองใหม่ ดังนั้นเชื่อว่าเศรษฐกิจจีนน่าจะเติบโตได้ 7-8% ในช่วง 5 ปีข้างหน้า
นายเจิง เผยหยันกล่าวว่า ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงในทิศทางบวก กลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว เศรษฐกิจดีขึ้นพอสมควร เศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นตัวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่ประเทศที่รุ่งเรืองใหม่อาจมีภาวะชะลอตัวลงเนื่องจากได้รับผลกระทบจากโครงสร้างภายในที่ไม่เหมาะสม และสถานการณ์โลกที่ซับซ้อนขึ้น แต่ในภาพรวม เศรษฐกิจโลกเติบโตค่อนข้างสมดุล
สำหรับประเทศจีน นายเจิง เผยหยันวิเคราะห์ว่า ตัวเลขเศรษฐกิจมหภาคช่วงต้นปีเป็นขาลง จำนวนเงินลงทุนอสังหาริมทรัพย์ลดลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากเหตุผลสำคัญคือ หนี้สาธารณะของหน่วยงานราชการท้องถิ่นและความผันผวนของตลาดอสังหาริมทรัพย์
ด้านการบริโภค สินค้าคงทนมีเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคแล้ว แต่ บริการด้านรักษาพยาบาลและดูแลคนชรายังพัฒนาไม่พอ ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค
ด้านการค้าระหว่างประเทศ ช่วงไตรมาสแรกปีนี้ ยอดการส่งออกลดลงเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีที่แล้ว เป็นเพราะปีที่แล้วการส่งออกทำได้ดีและค่าเงินหยวนเพิ่มขึ้น อีกทั้งสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมของโลก เช่นยุโรปและสหรัฐดีขึ้น จึงทำให้ การค้าระหว่างประเทศของจีนดีขึ้นตามไปด้วย
นายเจิง เผยหยันกล่าวว่า ในช่วงกว่า 30 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจจีนเติบโตในอัตราสูงพอสมควร ทุกวันนี้ จีนกำลังเผชิญกับการยกระดับและปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจ จึงยากที่จะรักษาอัตราการเติบโตไว้ที่ตัวเลขหลัก 10 แต่เขาเห็นว่า เศรษฐกิจจีนยังมีความคึกคัก และมีความเป็นไปได้ที่จะเติบโต 7-8% ในช่วง 5 ปีข้างหน้า
(nune/cici)