สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อเร็วๆนี้ หอจดหมายเหตุมณฑลจี๋หลินของจีนเผยจดหมายเหตุจำนวน 89 ชิ้น ในจำนวนนี้ มี 25 ชิ้น ระบุว่า กรณีบังคับสตรีไปเป็นนางบำเรอและการสร้างสถานบำเรอให้ทหารญี่ปุ่นนั้นเป็นพฤติกรรมของทางการญี่ปุ่น

เอกสารดังกล่าว ล้วนมาจากจดหมายเหตุที่เกี่ยวกับทหารญี่ปุ่นและธนาคารส่วนกลางของรัฐแมนจู โดยบันทึกข้อมูลอาชญากรรมการรุกรานจีนของญี่ปุ่นอย่างชัดเจน

นายซู จื้อเหลียง ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาศาสตร์ครุศาสตร์เซี่ยงไฮ้ กล่าวว่า การค้นพบสำคัญจากจดหมายเหตุดังกล่าว ยืนยันว่า การบังคับให้สตรีไปบำเรอเป็นพฤติกรรมที่รัฐบาลญี่ปุ่นรู้เห็นเป็นใจและสนับสนุน

ตามบันทึกทางโทรศัพท์ของธนาคารกลางรัฐแมนจู ระบุว่ามีการสั่งซื้อสตรีบำเรอ ในช่วง 5 เดือนนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 1944 เป็นต้นมา ทหารญี่ปุ่นได้ใช้จ่ายเงินจำนวน 532,000 เยน เพื่อสร้างสถานบำเรอ และได้รับการอนุมัติจากผู้บังคับบัญชาของทหารญี่ปุ่น

ในเอกสารดังกล่าวยัง ระบุว่า หญิงบำเรอไม่เพียงมีแต่ชาวจีนและเกาหลีสตรี

ยังมีผู้หญิงจากประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย โดยในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนมีสถานบำเรอระดับอำเภออย่างน้อย 20-30 แห่ง ส่วนในชวาของอินโดนีเซียก็มีสถานบำเรอด้วย

หอจดหมายเหตุจี๋หลินได้พบเอกสารนานาชนิดรวม 100,000 ชิ้น กว่า 90% เป็นภาษาญี่ปุ่น บันทึกการรุกรานจีนของทหารญี่ปุ่นระหว่างปี 1993-1995 ค้นพบเมื่อปี 1953 ขณะซ่อมแซมสิ่งก่อสร้างแห่งหนึ่งซึ่งเดิมเป็นที่อยู่ของหน่วยงานทหารญี่ปุ่น

หลังจากญี่ปุ่นประกาศแพ้สงครามเมื่อเดือนสิงหาคมปี 1945 ทหารญี่ปุ่นได้หนีออกจากจีนอย่างเร่งรีบโดยไม่ทันทำลายเอกสารดังกล่าว

Nune/LJ