หนังสือพิมพ์เหรินหมินรึ่เป้ารายงานว่า วันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา มีการก่อเหตุก่อการร้ายระเบิดที่สถานีรถไฟอุรุมูชีของเขตปกครองตนเองซินเจียง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน และบาดเจ็บ 79 คน ประชาคมโลกประณามเหตุก่อการร้ายครั้งนี้อย่างรุนแรง ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการประเทศต่างๆพากันสนับสนุนรัฐบาลจีนที่ใช้มาตรการปราบปรามผู้ก่อการร้ายอย่างเข้มงวด และเชื่อว่า ด้วยการสนับสนุนของประชาชนทั่วประเทศ จีนย่อมจะประสบผลสำเร็จในการต่อต้านการก่อการร้ายในที่สุด
นายไอ่ซุนโอ( Ei Sun Oh) นักวิจัยสถาบันรายารัตนัม (RSIS) ของสิงคโปร์กล่าวว่า เหตุก่อการร้ายครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความหวาดกลัว จีนจำเป็นต้องใช้มาตรการมากขึ้นเพื่อรับมือกับการคุกคามของลักธิก่อการร้าย และเพิ่มความร่วมมือกับประชาคมโลกในการต่อต้านการก่อการร้าย ปัจจุบัน จีนได้ร่วมมือกับประเทศจำนวนหนึ่งอย่างรัสเซียในการปราบปรามลัทธิก่อการร้ายโดยผ่านองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ ในอนาคต จีนสามารถเพิ่มการแลกเปลี่ยนความร่วมมือด้านนี้กับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้มากยิ่งขึ้น
นายวลาดิมีร์ เยฟเซเยฟ (Vladimir Yevseyev) ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยสังคมและการเมืองรัสเซียกล่าวว่า เหตุก่อการร้ายในเขตซินเจียงครั้งนี้ได้ทำลายความปลอดภัยในชีวิตของชาวบ้านทั่วไปในท้องถิ่น เป็นการท้าทายประชาคมโลกอย่างหนัก การปราบปรามลัทธิก่อการร้าย ลัทธิแบ่งแยกดินแดน และลัทธิหัวรุนแรงนั้น มีความหมายสำคัญและสลับซับซ้อนอย่างยิ่ง โดยต้องอาศัยความร่วมมือของประชาคมโลกเป็นระยะยาว
ผู้รับผิดชอบหนังสือพิมพ์อัล การ์บาร์ (El Khabar) ของแอลจีเรียระบุว่า สนับสนุนปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายของรัฐบาลจีน โดยเห็นว่า บรรดาประชาชนและประเทศที่รักสันติภาพและความเที่ยงธรรมทั่วโลก ล้วนสนับสนุนรัฐบาลและประชาชนจีน เพื่อต่อต้านลัทธิก่อการร้าย เชื่อว่า ประเทศจีนซึ่งมุ่งมั่นในการพัฒนาเศรษฐกิจและสร้างความเจริญรุ่งเรือง ไม่อาจยอมรับการใช้ความรุนแรงและลัทธิก่อการร้ายอย่างเด็ดขาด ต้องปราบปรามลัทธิก่อการร้ายให้สิ้นซากอย่างสุดความสามารถ