หนังสือพิมพ์เหรินหมินรึเป้ารายงานว่า การประชุมสุดยอดว่าด้วยการปฏิสัมพันธ์และมาตรการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียครั้งที่ 4 จะจัดขึ้นที่นครเซี่ยงไฮ้ ระหว่างวันที่ 20-21 พฤษภาคมนี้ นับเป็นครั้งแรกที่จีนเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำดังกล่าว เจ้าหน้าที่การทูตระดับสูงของจีนกล่าวเมื่อเร็วๆ นี้ว่า จะเสนอแนวความคิดความมั่นคงรูปแบบใหม่ในเอเชียต่อที่ ประชุมครั้งนี้ และจะขับเคลื่อนการสร้างความร่วมมือและความมั่นคงรูปแบบ ใหม่ในเอเชีย
วันที่ 14 พฤษภาคมนี้ นายหลิว เจี้ยนเชา ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนเขียนบทความชี้ว่า จีนยึดมั่นในแนวทางการพัฒนาประเทศด้วยสันติวิธี และส่งเสริมให้ประเทศต่างๆ ทั่วโลกเดินบนเส้นทางนี้เช่นกัน
จีนดำเนินนโยบายต่างประเทศที่จะพัฒนามิตรสัมพันธ์และความ ร่วมมือกับประเทศรอบข้างมาโดยตลอด เมื่อ 60 ปีที่แล้ว จีน อินเดียและพม่าร่วมกันเสนอหลัก 5 ประการแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นหลักการพื้นฐานแห่งการพัฒนาความสัมพันธ์ ระหว่างประเทศ จีนเป็นประเทศนอกภูมิภาคอาเซียนประเทศแรกที่ได้เข้าร่วมสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Treaty of Amity and Cooperation-TAC)และเป็นประเทศแรกที่ได้สร้างความสัมพันธ์ หุ้นส่วนฉันยุทธศาสตร์กับอาเซียน จีนให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ประเทศต่างๆ ทั่วโลกยามที่ประเทศเหล่านี้ประสบภัยธรรมชาติ
ทั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า แนวทางการพัฒนาประเทศด้วยสันติวิธีเป็นนโยบายพื้นฐานของจีน ซึ่งจะไม่เปลี่ยนแปลงจากกรณีใดกรณีหนึ่ง ในช่วงที่ผ่านมา จีนพยายามแก้ไขข้อพิพาทดินแดน และทางทะเลกับประเทศที่เกี่ยวข้องด้วยวิธีการเจรจาหารือ อย่างสันติมาโดยตลอด และได้ปฏิบัติตามปฏิญญาว่าด้วยแนวทางการปฏิบัติของภาคีในทะเลจีนใต้ อีกทั้งได้เร่งขับเคลื่อนกระบวนการกำหนดหลักปฏิบัติของภาคีในทะเลจีนใต้ นอกจากนี้ จีนได้ทุ่ม 3,000 ล้านหยวนตั้งกองทุนความร่วมมือทางทะเลจีน-อาเซียน ทั้งนี้ล้วนแสดงให้เห็นถึงความจริงใจ และตั้งใจจริงของจีนที่จะให้ทะเลจีนใต้กลายเป็นสะพานเชื่อมมิตร สัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างจีนกับประเทศต่างๆ ในภูมิภาคนี้ ในขณะเดียวกัน จีนขอย้ำจุดยืนที่จะพิทักษ์ปกป้องอธิปไตย ความมั่นคง และผลประโยชน์ที่ชอบธรรมของตนอย่างไม่หวั่นไหว จีนจะไม่อ่อนข้อให้กับแรงกดดันใดๆ จะไม่ยอมสูญเสียผลประโยชน์สำคัญสุดของจีนอย่างแน่นอน
จีนเป็นผู้สนับสนุนความร่วมมือที่อำนวยประโยชน์แก่กัน เพื่อให้ทุกฝ่ายประสบความสำเร็จร่วมกัน จีนเป็นผู้ส่งเสริมความเจริญรุงเรืองร่วมกันของเอเชีย ปัจจุบัน จีนและอาเซียนได้สร้างเขตการค้าเสรีขนาดใหญ่สุดระหว่างประเทศ กำลังพัฒนาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ยอดมูลค่าการค้าระหว่างจีนและอาเซียนในช่วงปี2002-2012 ได้เติบโต 23.6% ด้านการลงทุนระหว่างกันเพิ่มขึ้น 3.4 เท่าตัว
(YIN/cai)