ทั้งนี้แสดงให้เห็นว่า ทัศนะและแนวคิดทางการทหารที่เน้นการป้องกันตนเองของญี่ปุ่น จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ โดยก่อนหน้านี้ คำอธิบายทางการญี่ปุ่นคือ การใช้สิทธิ์ป้องกันตนเองนั้นเกินขอบเขตมาตราที่ 9 ของรัฐธรรมนูญญี่ปุ่นที่กำหนดว่า เพียงแต่สามารถป้องกันในขั้นต่ำสุดที่จำเป็น ดังนั้นจึงห้ามใช้สิทธิ์นี้ แต่รายงานฉบับดังกล่าวใช้รูปแบบการโต้แย้งที่แปลก พยายามล้มล้างคำอธิบายที่ใช้มาแล้วหลายสิบปี เลี่ยงบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ ผ่อนคลายการใช้สิทธิกันป้องกันตนเอง ทำให้รัฐธรรมนูญไม่สามารถจำกัดการพัฒนากำลังทหารของญี่ปุ่น
รายงานดังกล่าวระบุว่า สถานการณ์ความมั่นคงโดยรอบญี่ปุ่นตึงเครียดยิ่งขึ้น ภูมิภาคและสถานการณ์ระหว่างประเทศที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทางการทูต ความมั่นคงและการป้องกันของญี่ปุ่นเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ทำให้คำอธิบายประกอบรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการห้ามใช้สิทธิป้องกันตนเองนั้น ไม่สอดคล้องกับกความเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน
รายงานฉบับนี้ได้เสนอเงื่อนไขสำคัญ 6 ประการที่สามารถใช้สิทธิป้องกันตนเอง คือ ประเทศที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับญี่ปุ่นถูกโจมตี เหตุการณ์ที่อาจจะเกิดผลกระทบสำคัญต่อญี่ปุ่น ฝ่ายที่ถูกโจมตีขอความช่วยเหลือจากญี่ปุ่น ขอความเห็นชอบจากรัฐสภาก่อนหรือหลังเหตุการณ์ก็ได้ คณะรัฐมนตรีที่นำโดยนายกรัฐมนตรีมีสิทธิ์ตัดสินใจใช้กองกำลังป้องกันตนเอง ถ้าหากทหารญี่ปุ่นต้องข้ามผ่านประเทศที่ 3 ควรได้รับอนุมัติจากประเทศนั้นก่อน
ผลการทำสำรวจประชามติในญี่ปุ่นแสดงว่า ในด้านการใช้สิทธิป้องกันตนเองของญี่ปุ่นนั้น มีกว่า 63% เห็นว่าควรยืนหยัดในจุดยืนเดิมต่อไป
(In/Lin)