เนื่องจากอัตราเติบโตของเศรษฐกิจจีนในไตรมาสแรกไม่ได้บรรลุเป้าหมายที่คาดการณ์เอาไว้ อีกทั้งเผชิญกับภาวะลดต่ำลงด้วย ดังนั้น ตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นมา รัฐบาลจีนได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบนุ่มนวลที่เจาะจงต่อธุรกิจต่างๆ เช่น นโยบายด้านภาษีและการเงิน การสร้างบ้านให้กับชาวเมืองที่มีรายได้ต่ำ การสร้างทางรถไฟในภาคกลางและภาคตะวันตก การส่งเสริมการส่งออกและส่งเสริมให้ภาคเอกชนลงทุนพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานเป็นต้น
วันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา ธนาคารกลางจีนปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสำรองเป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ เน้นช่วยเหลือพัฒนาการเกษตรและวิสาหกิจขนาดย่อม ผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจเห็นว่า ในบรรดานโยบายทางการเงินและการคลังเพื่อส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจนั้น การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสำรองของธนาคารกลางถือเป็นมาตรการที่สำคัญที่สุด
นายจวง เจี้ยน นักเศรษฐศาสตร์ของสำนักงานตัวแทนธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชียประจำจีนเห็นว่า นโยบายต่างๆ ดังกล่าวจะได้ผลหรือไม่ ขึ้นอยู่กับหน่วยงานต่างๆ จะปฏิบัติอย่างจริงจังหรือไม่ ศาสตราจารย์เจ้า ซีจุน รองผู้อำนวยการวิทยาลัยการคลังและการเงิน มหาวิทยาลัยประชนชนจีนระบุว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบนุ่มนวลจะส่งผลต่อแนวโน้มการพัฒนาเศรษฐกิจจีน