มีผู้เชี่ยวชาญฝรั่งบางคนกล่าวว่า สหพันธ์กีฬาฟุตบอลนานาชาติต้องการคงไว้ซึ่งฐานะทางเศรษฐกิจของฟุตบอลในโลก จึงพยายามบุกเบิกตลาดใหม่ ฉะนั้น จีนซึ่งเป็นประเทศใหญ่ และเศรษฐกิจพัฒนาอย่างรวดเร็ว ประชาชนส่วนใหญ่ก็มีความสนใจต่อกีฬาฟุตบอล จึงให้เกียรตินี้แก่จีน

นางหลิว น่า เจ้าหน้าที่พิพิธพันณฑ์หลินจือกล่าวว่า เรามีหลักฐาน ข้อมูลและวัตถุที่แท้จริง สามารถที่จะโชว์ให้ดู จีนมีตำราจารึกการเล่นกีฬาชู่ จีว์ มานานแล้ว เมื่อกว่า 2,000 ปีก่อน นายซือ หม่าเชียน นักประวัตศาสตร์และนักเขียนสมัยราชวงศ์ฮั่น ซึ่งเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในจีน ก็ได้แต่งวรรณกรรมที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นหนังสือที่รวบรวมประวัติศาสตร์เกือบ 3 พันปีของจีน ในนั้นก็มีเนื้อหาเล่าถึงก๊กฉี ซึ่งเป็นประเทศหนึ่งในสมัยก๊ก หรือประมาณ 2,500 ปีก่อน ว่า ประเทศนี้ เศรษฐกิจพัฒนาอย่างดี วัฒนธรรมและการกีฬาก็ได้รับการพัฒนาอย่างดีเช่นกัน และในเวลานั้น เริ่มการเล่นกีฬาชู่ จีว์ และได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในหมู่ชาวบ้านทั่วไป

ซึ่งเมืองหลินจือ เป็นเมืองหลวงของก๊กฉีเวลานานเกือบ 800 ปี ในช่วงนี้ เศรษฐกิจดีที่สุดเมื่อเทียบกับก๊กอื่นๆ การนี้ได้สร้างพื้นฐานสำหรับการพัฒนากีฬาชู่จีว์ และเมื่อ 2,000 ก่อน ชาวหลินจือเอาอะไรมาทำลูกบอล

ในเมืองหลินจือเมืองโบราณของจีน มีหนังสือโบราณฉบับหนึ่งชื่อ "โจวหลี่ ข่าวกงจี้" ที่นับเป็นหนังสือคู่มือทางอุตสาหกรรมฉบับแรกของจีนกระทั่งของทั่วโลกด้วย เป็นหนังสือทางการของก๊กฉีในสมัยโบราณ ในหนังสือเล่มนี้ มีเนื้อหาตอนหนึ่งเกี่ยวกับการทำเครื่องหนัง ในนี้ ได้จารึกวิธีและขั้นตอนการทำเครื่องหนังอย่างละเอียดมาก ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า การเอาหนังสัตว์มาทำลูกบอลนั้น ไม่มีปัญหาทางเทคนิคใดๆ เลย และการนี้ก็ได้สร้างเงื่อนไขที่ดีสำหับการกำเนิดกีฬาชู่จีว์ในเมืองหลินจือ

นายหม่า กั๋วชิ่ง ผู้อำนวยการพิพิธพันณฑ์ฟุตบอลหลินจือได้ศึกษาวิจัยข้อมูลประวัติศาสต์อย่างละเอียด และเห็นว่า เมืองหลินจือเป็นแหล่งกำเนิดของกีฬาชู่จีว์ และเป็นแหล่งกำเนิดของกีฬาฟุตบอล เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2004 เขาได้เขียนรายงานยืนยันว่ากีฬาฟุบอลเริ่มต้นที่เมืองหลินจือ เมืองหลวงของก๊กฉีสมัยโบราณของจีน ต่อจากนั้น วันที่ 15 กรกฏาคม 2004 ในพิธีเปิดการแข่งขันฟุตบอลเอเชียคัพ นาย เซปป์ แบล็ตเตอร์ ประธานสหพันธ์กีฬาฟุตบอลโลกประกาศผลการวิจัยนี้ต่อชาวโลก เมืองหลินจือจึงกลายเป็นสถานที่ที่ได้รับความสนใจจากทั่วโลก

ในฐานะที่เป็นต้นกำเนิดของฟุตบอล กีฬาชู่จีว์ได้เริ่มต้นจากสมัยก๊กจนถึงสมัยราชวงศ์ชิง ผ่านระยะเวลากว่า 2,000 ปี ฉะนั้น โฉมหน้าดั้งเดิมของกีฬานี้เป็นยังไง

สมัยราชวงศ์ฮั่นเป็นช่วงการพัฒนากีฬาชู่จีว์อย่างคึกคัก นายหลี่ หยิว ชาวสมัยตุงฮั่นเมื่อประมาณ 2,000 ปีก่อน ได้เขียนบทความจารึกการก่อสร้างสนามแข่งขันชู่จีว์แห่งหนึ่งว่า ขุดหลุมเพื่อสร้างสนามใต้ผิวพื้น เพื่อไม่ต้องเสียเวลาในการเก็บลูกบอล มีกำแพงสี่เหลี่ยมล้อมรอบ แบ่งเป็นส่วนหยินครึ่งหนึ่งและส่วนหยางอีกครึ่งหนึ่ง อีกทั้งมีการระบุจำนวนนักกีฬาที่เข้าร่วม และกติกาการเล่นด้วย ระหว่างการแข่งขัน สองฝ่ายมีการชนกันอย่างดุเดือดได้

จนถึงสมัยราชวงศ์ซ่งและหยวนหรือประมาณกว่า 1,000 ปีก่อน การเล่นกีฬาชู่จีว์เปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก เวลานั้นมีหนังสือแนะนำการเล่นชู่จีว์ว่า มีการตั้งเสาไม้สูง 32ฟุต 2 เสา เพื่อแขวนตาข่ายบนอากาศ ใจกลางของตาข่ายเป็นประตูรูปกลม ขนาด 1 ฟุต 2 นิ้ว ทีมที่ร่วมแข่งขันจะยืนอยู่สองข้างของตาข่าย ไม่ต้องสัมผัสกัน กติกาคือเล่นลูกบอลไม่ให้ตกลงพื้น และพยายามยิงเข้าประตูที่อยู่กลางอากาศ สุดท้าย ทีมที่ยิงเข้าประตูมากกว่าเป็นฝ่ายชนะ ซึ่งการแข่งขันคงแบบนี้ไม่มีการชนหรือล้มอย่างดุเดือด แต่จะเน้นเทคนิคในการเล่นบอลมากกว่า ซึ่งมีลักษณะคล้ายการแสดง

(In/Lin)