จีน อินเดียกับพม่าจะร่วมกันจัดการประชุมรำลึกโอกาสครบรอบ 60 ปีของหลัก 5 ประการแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติที่กรุงปักกิ่ง นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน พล.อ เต็งเส่ง ประธานาธิบดีพม่า นายฮามิด ฮันซารี รองประธานาธิบดีอินเดียจะเข้าร่วมกิจกรรมรำลึกครั้งนี้ เจ้าหน้าที่การทูตและผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องของจีนต่างเห็นว่า การรำลึกโอกาสครบรอบ 60 ปีของหลัก 5 ประการแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติมีความหมายสำคัญ
หลัก 5 ประการแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติซึ่งริเริ่มโดยนายโจว เอินไหล อดีตนายกรัฐมนตรีจีนขณะพบปะกับคณะผู้แทนอินเดียที่มาเยือนจีนเมื่อปลายเดือนธันวาคมปี 1953 เมื่อปลายเดือนมิถุนายนปี 1954 นายกรัฐมนตรีโจว เอินไหลได้เยือนอินเดีย และพม่าตามคำเชิญ และร่วมกันเขียนหลัก 5 ประการแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติไว้ในแถลงการณ์ร่วมกับนายกรัฐมนตรีเนห์รูของอินเดียและนายอูนุนายกรัฐมนตรีพม่าขณะนั้น ซึ่งคือ เคารพอธิปไตยและบูรณภาพเหนือดินแดนกันและกัน ไม่รุกรานกัน ไม่แทรกแซงกิจการภายในของกันและกัน เสมอภาคเท่าเทียมกันและอำนวยประโยชน์แก่กัน และอยู่ร่วมกันอย่างสันติ
ศาสตราจารย์หวัง ฝัน รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยการต่างประเทศจีนกล่าวว่า 60 ปีมานี้ หลัก 5 ประการแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติได้กลายเป็นหลักการพื้นฐานในการแก้ไขความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแล้ว และเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปจากประเทศส่วนใหญ่ในโลก และสร้างคุณูปการณ์สำคัญในการผดุงสันติภาพและความมั่นคงในเอเชียและของโลก ส่งเสริมให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศพัฒนาก้าวหน้าไปด้วยดี การเคารพอธิปไตยซึ่งกันและกันและบูรณภาพเหนือดินแดนเป็นถึงความต้องการพื้นฐานในความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับรัฐ
นายจัง จิ่วหวัน รองนายกสมาคมการทูตสาธารณะ อดีตอธิบดีกรมเอเชียกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวว่า หลัก 5 ประการฯ เป็นสิ่งสำคัญต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับประเทศอาเซียน และก็เป็นหลักการชี้นำในการแก้ข้อพิพาททางชายแดนระหว่างจีนกับประเทศรอบข้างด้วย ต่อสถานการณ์ทะเลจีนใต้ในปัจจุบัน จีนได้เสนอข้อคิดเห็นสามประการ คือ 1 ปรึกษาหารือกันเพื่อแก้ไขอย่างสันติ ให้ประเทศที่เกี่ยวข้องหารือกันโดยตรงและดำเนินการแก้ไขในที่สุด 2 ก่อนปัญหาจะได้รับการแก้ไข ควรทิ้งไว้ปัญหาก่อน และดำเนินการบุกเบิกพัฒนาร่วมกัน และ 3 ต่างฝ่ายต่างยับยั้งชั่งใจ ไม่ใช้ปฏิบัติการที่ทำให้ปัญหานี้สลับซับซ้อนยิ่งขึ้น และร่วมกันรักษาสันติภาพและความมั่นคงของภูมิภาคนี้
IN/LJ