หนังสือพิมพ์เยาวชนจีนรายงานว่า วันที่ 5 สิงหาคมนี้ การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนครั้งที่ 47 จัดขึ้นที่เนปิดอว์ ของเมียนมาร์ นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนจะร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศจีน- อาเซียน การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับจีน ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ การประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก และการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก

สื่อมวลชนหลายสำนักแสดงความคิดเห็นว่า ปัญหาทะเลจีนใต้จะเป็นประเด็นหลักในการประชุมดังกล่าว เนื่องจากสหรัฐฯและฟิลิปปินส์เปิดเผยเมื่อเร็วๆ นี้ว่า จะมีการเคลื่อนไหวบางอย่างในช่วงจัดการประชุมดังกล่าว เพื่อให้ที่ประชุมเน้นการพูดคุยในประเด็นเกี่ยวกับปัญหาทะเลจีนใต้

ด้านสำนักข่าวเอพีของสหรัฐรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงผู้หนึ่งของสหรัฐเคยกล่าวว่า สหรัฐฯเสนอให้ทุกฝ่ายที่เกี่วข้องหยุดใช้ปฏิบัติการใดๆ ที่จะทำให้สภาพการณ์ ในปัจจุบันของทะเลจีนใต้เกิดการเปลี่ยนแปลง ขณะที่นายอัลเบิร์ต เดล โรซาริโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์กล่าวว่า แผนแก้ไขปัญหาทะเลจีนใต้ที่เสนอโดยสหรัฐฯนั้นเป็นแผน แก้ไขปัญหาเชิงสร้างสรรค์ ซึ่งสอดคล้องกับแผนแก้ไขปัญหาทะเลจีนใต้เบื้องต้นของ ฟิลิปปินส์

ต่อการเคลื่อนไหวของสหรัฐและฟิลิปปินส์ในประเด็นปัญหาทะเลจีน ใต้ในช่วงที่ผ่านมา นายอี้ เซียนเหลียง รองอธิบดีกรมปักปันเขตพรมแดนและกิจการทางทะเล กระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวในการแถลงข่าวต่อทูตานุทูตและผู้ สื่อข่าวต่างชาติประจำประเทศจีนเมื่อวันที่ 4 สิงหาคมนี้ว่า การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับจีน และประเทศอื่นๆที่เกี่ยวข้องนั้น เป็นเวทีสำหรับพูดคุยในประเด็นการพัฒนาความร่วมมือใน ภูมิภาคนี้ แต่สิ่งที่น่าเสียใจคือ ปีหลังๆ นี้ บางประเทศพยายามให้ปัญหาทะเลจีนใต้กลายเป็นประเด็นร้อนใน การประชุม ซึ่งเป็นสิ่งที่จีนและประเทศส่วนใหญ่ในอาเซียนไม่อยากเห็น เพราะเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว วัตถุประสงค์ และบทบาทของที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับจีนและ ประเทศอื่นๆ ก็ต้องเผชิญกับการท้าทายมากมาย ข้อพิพาท ข้อขัดแย้งต่างๆ ก็จะทวีความรุนแรงขึ้น ขณะที่ความร่วมมือกลับถูกมองข้าม ด้วยสาเหตุเหล่านี้ การที่สหรัฐฯและฟิลิปปินส์เสนอแผนแก้ไขปัญหาทะเลจีนใต้ฉบับใหม่นั้นจึงไม่มีความจำเป็นใดๆ ทั้งสิ้น

นายอี้ เซียนเหลียงยังกล่าวว่า สิ่งที่สำคัญในขณะนี้ไม่ใช่การเสนอแผนการแก้ไขปัญหาทะเลจีนใต้ฉบับ ใหม่ เพราะแนวทางแก้ไขปัญหาทะเลจีนใต้มีอยู่แล้วในปฏิญญาว่าด้วยแนวทางปฏิบัติของภาคีในทะเลจีนใต้

(YIN/cai)