สำนักข่าวซินหวารายงานว่า ช่วงนี้ปรากฏวี่แววมากยิ่งขึ้นว่า เศรษฐกิจโลกครึ่งหลังปีนี้ยังน่าห่วง
ความเสี่ยงทางการเมืองเป็นการท้าทายที่หนักสุดสำหรับเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน เนื่องจากประการแรก วิกฤติยูเครนเป็นเหตุให้ข้อขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับประเทศตะวันตกไต่บันใดสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกด้านหนึ่ง ประเทศยุโรปกับสหรัฐฯมุ่งจะทำลายปัจจัยหลักของเศรษฐกิจรัสเซียอย่างรอบด้านรวมถึงการพลังงาน การทหาร และการเงิน เป็นต้น ส่วนรัสเซียก็แสดงท่าทีแข็งกร้าวที่จะตอบโต้อย่างเต็มที่ เมื่อเร็วๆนี้ คำสั่งห้ามนำเข้าอาหารจากยุโรปของรัสเซียทำให้ชาวยุโรปเดือดร้อนอย่างยิ่ง
เกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ ผู้เลี้ยงวัวนม และชาวประมงในยุโรปต่างบ่นกันพรีม วันที่ 14 สิงหาคมนี้ รัฐสภายูเครนผ่านมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย โดยระบุจะห้ามรัสเซียขนส่งพลังงานผ่านยูเครนไปยังยุโรป รัสเซียเป็นประเทศผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติแก่ประเทศยุโรปมากที่สุด ขณะที่อากาศเย็นลง ในช่วงหลายเดือนข้างหน้า ยุโรปจะพ้นจากวิกฤตขาดแคลนก๊าซธรรมชาติได้อย่างไรนั้น ยังเป็นเรื่องที่น่ากังวล
เมื่อเร็วๆนี้ ผู้เชี่ยวชาญแสดงความคิดเห็นว่า การเมืองที่ไม่มั่นคง ข้อขัดแย้งที่แฝงอยู่ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ไม่เป็นปกติต่างเป็นภัยคุกคามการพัฒนาเศรษฐกิจมากขึ้นทุกวัน และอาจเลวร้ายกว่าที่คาดคิดหลังวิกฤตการเงินเสียอีก
เมื่อเร็วๆนี้ สถิติเบื้องต้นจากสำนักงานสถิติสหภาพยุโรประบุว่า ยอดผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของเขตยูโรโซนในไตรมาสที่ 2 มีการเติบโตเป็นศูนย์ ภาวะการณ์เศรษฐกิจของเยอรมนี ฝรั่งเศส และอิตาลี ซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่ของเขตยูโรโซนทำให้ผู้คนผิดหวัง
เศรษฐกิจญี่ปุ่นก็ซบเซาลงอย่างหนัก ตามการคาดการณ์ล่าสุด เศรษฐกิจญี่ปุ่นปีนี้ลดลง 6.8%
ทั้งๆที่เศรษฐกิจสหรัฐฯยังค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาอื่นๆ แต่ในมุมมองของผู้เชี่ยวชาญ ความสงบไม่สามารถปิดบังปัญหาเบื้องลึก เมื่อเร็วๆนี้ รองประธานธนาคารกลางสหรัฐฯกล่าวว่า จนถึงขณะนี้ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯและทั่วโลกทำให้ผู้คนผิดหวัง