เมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ เกียงยางซินบุน (Kyunghyang Shinmun) รายงานว่า การที่นาย นาย รี ซู ยอง รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีเหนือไปร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาตินั้น นับเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปีนับตั้งแต่ปี 1999 เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ประจำสหประชาชาติผุ้หนึ่งกล่าวว่า นาย รี ซู ยองอาจจะขึ้นกล่าวปราศรัยในการประชุมสมัชชาฯ สื่อมวลชนเกาหลีใต้ยังรายงานข่าวว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานเกาหลีเหนือประจำสหประชาชาติจัดแถลงข่าวหลายครั้ง ประณามการซ้อมรบร่วมระหว่างเกาหลีใต้กับสหรัฐฯ ว่าเป็นการซ้อมรบเพื่อสงครามนิวเคลียร์ และเน้นว่า เกาหลีเหนือมีความจำเป็นในการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ ดังนั้น การกล่าวปราศรัยของนาย รี ซู ยองคงเน้นย้ำจุดนี้อีกครั้ง
สำหรับการที่รัฐมนตรีต่างประเทศของเกาหลีเหนือเดินทางไปสหรัฐฯ รอบ 15 ปีที่ผ่านมา จะเป็นโอกาสปรับปุงความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือกับสหรัฐฯ ความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้หรือไม่นั้น สื่อมวลชนเกาหลีใต้วิเคราะห์ว่า การประชุมสมัชชาฯ ครั้งนี้ ปัญหาสิทธิมนุษยชนของเกาหลีเหลืออาจจะเป็นหัวข้อที่ต้องอภิปรายในที่ประชุม ดังนั้น นาย รี ซู ยองคงใช้ความพยายามทางการทูตเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นมา นอกจากนั้น เมื่อไม่นานมานี้ เกาหลีเหนือยังคงประณามสหรัฐฯ อย่างรุนแรงและต่อเนื่อง สภาพเช่นนี้ ทำให้การปรับปรุงควมสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือกับสหรัฐฯ คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
สำนักข่าวร่วมเกาหลีใต้รายงานวันที่31 สิงหาคมว่า การซ้อมรบร่วมระหว่างเกาหลีใต้กับสหรัฐฯ ในรหัส อุลจิ ฟรีดอม การ์เดียน (Ulchi Freedom Guardian) สิ้นสุดลงแล้ว แม้ว่าทางการเกาหลีเหนือประณามรัฐบาลเกาหลีใต้ที่ร่วมการซ้อมรบครั้งนี้ และประกาศว่าจะไม่จัดส่งกองเชียร์ไปร่วมการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์อินชอน (Incheon) ก็ตาม แต่คงจะเป็นวิธีการที่บีบให้รัฐบาลเกาหลีใต้ปรับเปลี่ยนนโยบายต่อเกาหลีเหนือก่อนเปิดการเจรจาระหว่างสองฝ่าย
(In/Lin)