วานนี้(1 ก.ย.) เป็นวันเปิดเทอมขึ้นชั้นใหม่ของโรงเรียนประถมและมัธยมศึกษาทั่วประเทศจีน แต่เนื่องจากช่วงปิดเทอมที่ผ่านมามีข่าวเด็กนักเรียนนักศึกษาประสบอุบัติเหตุ ถูกหลอก ถูกลักพาตัวและจบลงด้วยการสูญเสียชีวิตหลายต่อหลายรายติดต่อกัน ทำให้ประเด็นความปลอดภัยกลายเป็นหัวเรื่องสำคัญสำหรับฤดูกาลเปิดเทอมใหม่นี้

เปิดเทอมวันแรกกับการซ้อมหนีไฟออกจากตึกเรียน

ของเด็กนักเรียนประถมเขตชีว์หยาง นครเซี่ยงไฮ้

สำหรับที่กรุงปักกิ่ง ได้ระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจถึง 6,000 นาย ออกปฏิบัติหน้าที่เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุดในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน มณฑลกวางตุ้งก็ได้เพิ่มระดับความปลอดภัยในรั้วโรงเรียนอย่างรอบด้าน รวมถึงการให้คำชี้แนะงานรักษาความปลอดภัยด้วย ส่วนนครเซี่ยงไฮ้ก็ได้กำหนดให้สัปดาห์แรกของการเปิดเทอมเป็นสัปดาห์ให้ความรู้ด้านความปลอดภัย และมีอีกหลายโรงเรียนที่จัดคาบเรียนเพิ่มสำนึกเรื่องความปลอดภัยให้กับนักเรียน

รวมถึงในด้านอื่นๆที่เกี่ยวข้องให้กับผู้ปกครองด้วย อาทิ โรงเรียนประถมและมัธยมศึกษาของเมืองเซี่ยเหมิน ได้ออกคำแนะนำสำหรับเด็กและผู้ปกครองเกี่ยวกับความปลอดภัยสี่ด้าน ได้แก่ ด้านการจราจรใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย การป้องกันถูกล่วงละเมิดทางเพศ ความปลอดภัยในการเล่นน้ำ และการเอาตัวรอดจากเหตุเพลิงไหม้

ส่วนระดับมหาวิทยาลัย แม้จะยังไม่เปิดเรียน แต่ก็อยู่ในช่วงรายงานตัว โดยเฉพาะสำหรับนักศึกษาน้องใหม่ การเปลี่ยนสถานะใหม่ สภาพแวดล้อมใหม่ บรรยากาศใหม่รอบกาย ทำให้หลายคนอดรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยไม่ได้ โดยทางคณะรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และการเงินหนานจิง ได้มีการจัดประชุมพบปะระหว่างอาจารย์และนักศึกษาหญิงปีหนึ่งน้องใหม่ เพื่อชี้แนะเรื่องการเดินทางและป้องกันตนจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งนักเรียนหญิงส่วนหนึ่งยอมรับว่า ไม่รู้ว่าจะปฏิบัติตัวอย่างไรหากต้องเผชิญกับคนร้าย หรือตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตราย

อาจารย์จินลี่หลิน รองคณบดีระบุว่า การรู้จักกลัวและหวาดระแวงภัยไม่ใช่เรื่องไม่ดี ถือเป็นการปกป้องตัวเองรูปแบบหนึ่ง แต่ต้องไม่มากเกินพอดี ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นวิตกจริต ทำอะไรไม่ได้เพราะกลัวหรือระแวงไปเสียหมด การแต่งกายให้เรียบร้อยไม่ล่อแหลม ไม่เดินทางคนเดียวยามวิกาล ไม่ใช้บริการรถแท๊กซี่ป้ายดำ เป็นการระมัดระวังตนเบื้องต้นที่ช่วยลดความเสี่ยงต่ออันตรายได้ เข้าทำนองปลอดภัยไว้ก่อน

เก่าเล่าไปใหม่บอกมา โดย วังฟ้า 羅勇府