ทั้งนี้นับเป็นข้อตลงสำคัญอีกฉบับหนึ่งต่อจากที่ทั้งสองประเทศเคยร่วมลงนามข้อตกลงว่าด้วยการปักปันเขตแดนทางทะเลทางตะวันตกของช่องแคบสิงคโปร์เมื่อปี 2009 นายมาร์ตี้ เนทาเลกาวา รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซียระบุว่า การเจรจาและการปักปันเขตแดนทางทะเลระหว่างสองประเทศเป็นไปตามข้อบัญญัติที่เกี่ยวข้องของกฎหมายทางทะเลแห่งสหประชาชาติฉบับปี 1982 ทั้งพิจารณาถึงผลประโยชน์สำคัญที่สุดของสองประเทศอย่างเต็มที่ด้วย
สิงคโปร์ไม่เพียงแต่เป็นประเทศที่อยู่ใกล้อินโดนีเซียที่สุดเท่านั้น หากยังเป็นประเทศแหล่งทุนรายใหญ่ที่สุดของอินโดนีเซียด้วย พร้อมกันนี้ สิงคโปร์ยังให้ความช่วยเหลือแก่อินโดนีเซียในด้านต่างๆ มาก ทั้งการรักษาพยาบาล การศึกษา การป้องกันประเทศ และการบำบัดระบบนิเวศ ด้านการค้านั้น ในปี 2013 ยอดการค้าระหว่างสองประเทศเป็นเงิน 42,300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
พลโทสุสิโล บัมบัง ยุโดโยโน ประธานาธิบดีอินโดนีเซียเยือนสิงคโปร์ระหว่างวันที่ 2-4 กันยายนที่ผ่านมา เขาระบุว่า ข้อตกลงปักปันเขตแดนทางทะเลทางตะวันออกของช่องแคบสิงคโปร์ที่ทำขึ้นในครั้งนี้จะมีส่วนผลักดันความสัมพันธ์และความร่วมมือสองประเทศให้พัฒนาก้าวหน้า ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การปักปันเขตแดนทางทะเลของอินโดนีเซียและสิงคโปร์ในครั้งนี้ถือเป็นผลสำเร็จ ควรค่าแก่การเอาอย่างสำหรับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคที่มีข้อพิพาททางดินแดน ประเทศที่เกี่ยวข้องควรเลิกใช้กำลังรุนแรง หันมาใช้วิธีการเจรจาที่สันติ และปฏิบัติตามข้อบัญญัติที่เกี่ยวข้องของกฎหมายทางทะเลระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด
(IN/LING)
