ในฐานะเป็นพี่ใหญ่ ตัวตัวยังมักช่วยสั่งสอนน้องๆ และเด็กทุกคนก็เชื่อฟังตัวตัวเหมือนกัน เมื่อไปถึงหมู่บ้านเหมียวไจ้ของมณฑลหูหนาน เจ้าหน้าที่ให้เด็กๆ ไปเก็บผลไม้และขายในตลาด เพื่อซื้อของที่ระลึกให้คุณย่าในหมู่บ้าน แต่ระหว่างการเก็บผลไม้ "เกรส" ลูกสาวของฉาว เก๋อ คิดถึงพ่อและร้องไห้ ตัวตัวและเป้ยเอ๋อร์ ซึ่งกำลังปีนต้นไม้อยู่รีบลงมาปลอบใจน้องน้อยที่สุด ตัวตัวบอกว่า ขายผลไม้เสร็จแล้วก็จะได้เจอพ่อทันที ส่วนเป้ยเอ๋อร์ก็พูดปลอบว่า เก็บผลไม้แล้วไปแลกเงิน ก็สามารถไปซื้อช็อกโกแลตได้ เกรสจึงหยุดร้องและอารมณ์ดีขึ้นทันที ระหว่างการเดิน พี่สองคนก็เดินอยู่สองข้างของเกรสเพื่อดูแลน้อง
แต่มิตรภาพของพี่น้องถูกทดสอบในกระบวนการขายผลไม้และซื้อของฝาก เป้ยเอ๋อร์ตั้งใจเล่นแต่ลืมหน้าที่ขายผลไม้ จึงไม่ได้เงินซื้อของฝาก และเมื่อตัวตัวกำลังคิดเงิน เป้ยเอ๋อร์ก็รับเอาหนึ่งหยวนเข้ากระเป๋าตนแทน ตัวตัวจึงบอกเป้ยเอ๋อร์ว่า เงินเหล่านี้ไม่ใช่ของเป้ยเอ๋อร์ และให้เป้ยเอ๋อร์คืนมา เวลาซื้อของฝาก เป้ยเอ๋อร์เห็นรองเท้าที่สวยมาก จึงอยากได้ แต่ไม่มีเงิน และอยากใช้เงินของตัวตัวและเกรสซื้อรองเท้าคู่นี้ แต่ตัวตัวปฏิเสธ ทำให้เป้ยเอ๋อร์เสียใจมาก ตัวตัวจึงรีบบอกเป้ยเอ๋อร์ว่า เงินเหล่านี้ต้องใช้ในการซื้อของฝากให้คุณย่าตามหน้าที่ที่ทางรายการมอบหมายให้ ในขณะที่ปลอบใจเป้ยเอ๋อร์ ยังขอให้คนขายให้รองเท้าโดยไม่เก็บเงิน อีกทั้งยังให้เกรส เด็กอายุน้อยที่สุดและน่ารักที่สุดไปขอ สุดท้ายคนขายก็ยอมตกลงให้รองเท้าฟรีกับเป้ยเอ๋อร์ แต่เป้ยเอ๋อร์บอกว่า ไม่ชอบพี่ตัวตัวอีกแล้ว ตัวตัวเสียใจมาก กล่าวกับเจ้าหน้าที่ว่า ทำอย่างไรดี เป้ยเอ๋อร์ไม่ชอบหนูแล้ว แต่เด็กก็หายโกรธกันเร็วมาก ไม่นานเป้ยเอ๋อร์ก็กล่าวกับตัวตัวว่า เราคืนดีกันดีกว่า ตัวตัวจึงกอดเป้ยเอ๋อร์แน่น ทำให้ผู้ชมต่างซาบซึ้งใจมาก มีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตแสดงความคิดเห็นว่า ในใจของตัวตัวมีความรักมากมาย ไม่ว่าน้องคนไหน ตัวตัวก็จะดูแล ซึ่งไม่เหมือนเด็กอายุเท่ากัน ซึ่งจริงๆ แล้ว ถึงผู้ใหญ่ก็อาจไม่สามารถทำได้ดีขนาดนี้
เมื่อต้องไปพักอยู่ในป่า พ่อลูกทุกคนต้องอยู่ในห้องเดียวกัน ทำให้ทุกคนดีใจมาก ตัวตัวเสนอให้ทำความสะอาดพื้นแล้ว ทุกคนต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าห้อง และยังเขียนกระดาษแปะบนประตูว่า "ถอดรองเท้า" แต่หยางหยางหยางไม่เห็นกระดาษ จึงเข้าไปโดยตรง เมื่อคนอื่นบอกให้เขาดูกระดาษบนประตู เขายังดึงกระดาษออก ทำให้พ่อหยางเวยไม่พอใจและเรียกลูกมาถามว่า คนอื่นช่วยกันทำความสะอาดแล้ว ทำไมลูกต้องทำอย่างนี้ แต่หยางหยางหยางออกจะหัวแข็ง ไม่ยอมขอโทษง่ายๆ ส่วนตัวตัวก็ไม่ได้ว่ากล่าวหยางหยางหยาง อีกทั้งยังปลอบใจเขาว่า ไม่เป็นไร ควรกล่าวขอโทษกับพ่อ เมื่อกล่าวขอโทษ พ่อจะยกโทษที่ทำผิดให้แน่ แม้ว่าหยางหยางหยางไม่ได้พูดอะไรกับตัวตัว แต่เวลาหยางเวยเข้าห้อง หยางหยางหยางได้กล่าวขอโทษกับพ่อตามที่ตัวตัวบอก และหยางเวยก็ยกโทษลูก ทำให้บรรยากาศในห้องใหญ่อบอุ่นเหมือนเดิม
ที่ประทับใจมากที่สุด ก็คือ มีอยู่วันหนึ่ง ผู้ดำเนินรายการได้จัดห้องพักพิเศษให้เด็กๆ และบอกว่ามีเพียงพ่อคนเดียวสามารถไปอยู่เป็นเพื่อนกับเด็กๆ ได้ พอกล่าวเสร็จแล้ว เด็กๆ ทุกคน ยกเว้นตัวตัว เริ่มร้องไห้ โดยเฉพาะลูก 2 คนของฉาว เก๋อ ร้องไห้ไม่หยุด อย่างไรก็ไม่ยอมแยกจากพ่อ พ่อคนอื่นจึงแอบปรึกษากับลูกของตนเองให้เลือกพ่อฉาว เก๋อไปอยู่กับเด็กๆ แม้ว่าหวงเหล่ยไม่ได้พูดอะไรกับตัวตัว ตัวตัวก็เลือกพ่อฉาว เก๋อ เหมือนกัน ทำให้ฉาว เก๋อ สามารถดูแลลูก 2 คนที่ร้องไห้ไม่หยุดได้ แต่เลือกเสร็จแล้ว ตัวตัวก็น้ำตาไหล และบอกหวงเหลยว่า จริงๆ อยากเลือกพ่อของตนเอง ส่วนหวงเหล่ยก็เข้าใจลูกสาวมาก และปลอบใจลูกว่า ใครก็อยากให้พ่อของตนเองไปเป็นเพื่อน แต่มีเพียงคนเดียวสามารถไปได้ จริงๆ เขาก็ไม่อยากแยกกับลูก แต่เพื่อดูแลน้อง 2 คนที่ยังเล็ก ต้องเลือกอย่างนี้ อีกทั้งยังชื่นชมตัวตัวว่า ทำได้ดีมาก