สงครามต่อต้านญี่ปุ่นของประชานจีนเริ่มตั้งแต่เหตุการณ์ 18 กันยา ปี 1931 จนถึงสงครามแปซิฟิกหรือสงครามมหาเอเชียบูรพาเกิดขึ้น ทหารสหรัฐฯ ส่งทหารเข้าสู่สนามรบเอเชีย เป็นช่วงเวลากว่า 10 ปี ประชาชนจีนสู้รบต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่นไม่เคยหยุด และหลังจากสงครามมหาสมุทรแอซิฟิกเกิดขึ้น สนามรบจีนยังเป็นสนามรบตะวันออกสำคัญในสงครามต่อต้านฟาสซิสต์
หลังเหตุการณ์หลูโกวเฉียว ทหารญี่ปุ่นบุกเข้ากรุงปักกิ่ง และประกาศว่าจะยึดครองจีนภายในเวลา 3 เดือน แต่ประชาชนจีนไม่ยอม จึงมีสงครามครั้งใหญ่เกิดขึ้นหลายครั้ง ซึ่งเป็นสงครามที่มีทหารจำนวนกว่า 1 แสนคนหรือ 1 ล้านคนเข้าร่วม มีทหารจีนเสียชีวิตจำนวนมากในสงครามเหล่านี้
แม้ว่าเราไม่สามารถจดจำชื่อของทหารจีนเหล่านี้ทั้งหมด แต่ควรจะรู้ว่าสงครามต่อต้านการรุกรานของทหารญีปุ่นขนาดใหญกว่า 22 ครั้งที่เกิดขึ้นในจีน เช่นสงครามป้องกันซงฮู่ที่เขตเซี่ยงไฮ้ สงครามป้องกันเมืองไท่หยวนของมณฑลซานซี สงครามป้องกันหนานจิง สงครามป้องกันสวีโจว สงครามป้องกันอู่ฮั่น สงครามป้องกันฉางซา เป็นต้น
สงครามเหล่านี้ล้วนเพื่อป้องกันเมืองใหญ่ของจีน ไล่ลงมาจากเหนือจนถึงใต้ เป็นสงครามที่สู้รบกันดุเดือดมากๆ มีทหารและประชาชนจีนเสียชีวิตหลายล้านคนท่ามกลางระเบิดปืนใหญ่และปืนที่ยิงจากเครื่องบินรบของญี่ปุ่น วีรบุรุษจีนเสียเลือดเนื้อเทียบเท่าน้ำในแม่น้ำสายหลัก เป็นการกล่าวปลุกใจให้ประชาชนจีนต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่นอย่างไม่ลดละ
ท่านประธานเหมา เจ๋อตุงเคยเขียนหนังสือวิเคราะห์และสรุปสงครามต่อต้านญี่ปุ่นเรื่อง "สงครามที่ยืดเยื้อ" โดยระบุว่า เมื่อพิจารณาจากขนาดความใหญ่โตของสงครามโลกครั้งที่ 2 มีการสู้รบในสนามรบกว้างขวางพื้นที่ประมาณ 22 ล้านตารางกิโลเมตร เฉพาะในจีนก็มี 6 ล้านตารางกิโลเมตร เกือบเป็นพื้นที่ 2 ใน 3 ของทั่วประเทศ ทหารฟาสซิสต์ของญี่ปุ่น เยอรมันและอิตาลีรวม 11.1 ล้านคน จีนได้ต่อต้านทหารญี่ปุ่น 2.4 ล้านคน
ด้านเวลาการทำสงคราม สหรัฐฯ ใช้เวลา 3 ปี 9 เดือน โซเวียต 4 ปี 2 เดือน อังกฤษ 6ปี ส่วนประเทศจีน 12 ปี
ผลของสงคราม ในสนามรบจีน ทหารและประชานจีนสู้รบกับทหารญี่ปุ่นทั้งหมดกว่า 165,000 ครั้ง กำจัดทหารญี่ปุ่นกว่า 1.5 ล้านคน เป็นสัดส่วนกว่า 70% ของทหารญี่ปุ่นที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งจำนวนนี้มากกว่าจำนวนทหารญี่ปุ่นทั้งหมดที่ถูกกำจัดโดยประเทศรอบมหาสมุทรแปซิฟิกกว่า 20 ประเทศ
ข้อมูลประวัติศาสตร์ของประเทศ่างๆ ล้วนแสดงให้เห็นว่า สงครามต่อต้านญี่ปุ่นของจีนได้ขัดขวางแผนยุทธศาสตร์การบุกโซเวียตของญี่ปุ่น เมื่อเยอรมันยกทัพบุกโซเวียต เคยขอร้องญี่ปุ่นให้ความร่วมมือ บุกโซเวียตจากทิศตะวันออกพร้อมกัน แต่ประธานเสนาธิการใหญ่กองทัพญี่ปุ่นกล่าวตอบว่า ปัจจุบัน ญี่ปุ่นใช้กำลังทหารจำนวนมากในจีน จึงไม่สามารถแบ่งกำลังไปบุกโซเวียตได้ สุดท้าย รัฐบาลญี่ปุ่นตัดสินใจต้องทุ่มกำลังทหารในจีนต่อไป จะยังไม่ส่งทหารไปร่วมสงครามระหว่างเยอรมันกับโซเวียต
นอกจากนั้น จีนยังยึดมั่นหลักการพันธมิตรต่อต้านลัทธิฟาสซิสต์ของโลก ในช่วงที่สงครามต่อต้านที่ลำบากยากยิ่งนั้น ยังพยายามจัดส่งทหารไปสนามรบต่างประเทศ อย่างเช่นส่งทหาร 100,000 คนไปร่วมกับทหารพันธมิตรที่พม่า เมื่อกลับประเทศ มีทหารรอดชีวิตกลับมาเพียง 40,000 นาย
สันติภาพของโลกในวันนี้ ไม่ใด้มาอย่างง่ายๆ แต่ได้สร้างขึ้นบนระเบียบโลกหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มี "ปฏิญญาไคโร" และ "แถลงการณ์พอทส์ดัม" เป็นพื้นฐาน แต่ปีหลังๆ นี้ ฝ่ายขวาญีปุ่นก่อเหตุการณ์ขึ้นอย่างไม่ขาดสาย ทำให้ประชาคมโลกไม่พอใจอย่างยิ่ง อย่างเช่น สิ่งที่รัฐบาลญี่ปุ่นอ้างว่า ซื้อเกาะเตี้ยวอวี๋นั้น เป็นการท้าทายพื้นฐานกฎหมายกฎข้อบังคับโลกหลังสงคราม การแก้ไขปรับเปลี่ยนเนื้อหาตำราเรียนวิชาประวัติศาสตร์ที่บิดเบือนความเป็นจริง การคารวะศาลเจ้ายาสุคุนินั้น เป็นการอำพรางประวัติศาสตร์การรุกรานที่เคยสร้างความทุกข์ทรมานและโศกนาฏกรรมอย่างใหญ่หลวงแก่ประชาชนเอเชีย กระทั่งมุ่งจะแก้ไขรัฐธรรมนูญสันติภาพ ผ่อนคลายอำนาจกองกำลังป้องกันตนเอง ล้วนเป็นการคุกคามต่อสันติภาพของโลก
(In/Lin)