เว็บไซต์เหมินหมินรายงานว่า นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนกำลังเยือนอินเดียอย่างเป็นทางการ วันที่ 17 กันยายนนี้ นายสี จิ้นผิงได้เขียนบทความหัวข้อ "ร่วมกันสร้างศตวรรษแห่งเอเชียที่เจริญรุ่งเรือง" ตีพิมพ์ในหนังสือพิม์สองฉบับของอินเดียในโดยเสนอให้จีนกับอินเดียร่วมกันสร้าง "ศตวรรษแห่งเอเชีย"

นายซุน ซื่อไห่ นายกสมาคมเอเชียใต้ศึกษาของจีนเห็นว่า การที่นายสี จิ้นผิง กล่าวถึงศตวรรษแห่งเอเชียในระหว่างการเยือนอินเดียนั้น แสดงให้เห็นว่า หนึ่ง สองฝ่ายมีความมั่นใจมากขึ้นในการทำความรับรู้ร่วมกันเกี่ยวกับ "การเติบโตความเจริญรุ่งเรืองของเอเชีย" สอง การเติบโตและความเจริญรุ่งเรืองของเอเชียนั้นต้องให้ทั้งสองประเทศร่วมมือกัน

นายโจว กัง อดีตเอกอัครราชทูตจีนประจำอินเดียกล่าวว่า อินเดียเป็นประเทศกำลังพัฒนาที่มีสภาพคล้ายกับจีนมากที่สุด โดยทั้งสองประเทศต่างเป็นประเทศที่มีอารยธรรมโบราณ เป็นประเทศเพื่อนบ้าน เป็นประเทศเศรษฐกิจใหม่ เป็นประเทศกำลังพัฒนาที่พัฒนาเร็วสุด และต่างเป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ในกิจการระหว่างประเทศ คำกล่าวของนายสี จิ้นผิง แสดงให้เห็นว่า สองฝ่ายต่างให้ความสำคัญอย่างมากในการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ผู้นำสองประเทศมีความมั่นใจอย่างมากและทำความรับรู้ร่วมกันด้านการฟื้นฟูความเจริญด้วยกัน

นายโจวกัง เห็นว่า ถึงแม้ว่าจีนกับอินเดียมีปัญหาค้างคากันอยู่บ้าง ซึ่งมาจากความเชื่อถือกันทางยุทธศาสตร์และการเมืองไม่พอ จึงทำให้มีข้อขัดแย้งกันด้านผลประโยชน์บางอย่าง แต่ก่อนหน้านี้ นายสี จิ้นผิง ได้พบกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอินเดียหลายครั้งในสถานการณ์ระหว่างประเทศ คราวนี้ยังได้เยี่ยมเยือนบ้านเกิดของนายกรัฐมนตรีอินเดียด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ผู้นำสองประเทศให้ความสำคัญกับสถาณการณ์ใหญ่ สร้างบรรยากาศเพื่อแก้ไขปัญหาชายแดน และได้ทำความรับรู้ร่วมกันด้านการผดุงสันติภาพและการพัฒนา

นายโจว กัง กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา จีนกลายเป็นประเทศคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดของอินเดีย ยอดการค้าทวิภาคีระหว่างกันมีมูลค่า 65,000 ล้านเหรียญสหรัฐ การสร้างโซนเศรษฐกิจเส้นทางสายไหม และเส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21 ต่างต้องอาศัยกำลังของอินเดีย ความร่วมมือระหว่างสองประเทศสามารถส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของเอเชียได้ เหล่านี้เป็นสาเหตุที่นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนเสนอให้สองประเทศร่วมกันสร้าง "ศตวรรษแห่งเอเชีย"

In/Ldan