บุคคลรุ่นอาวุโสในวงการสื่อผู้นี้ระบุว่า ชาวฮ่องกงบางส่วนของจีนริเริ่มชุมนุม "ออกคิวพาย เซ็นทรัล" อย่างผิดกฎหมายตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งได้ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อระเบียบของสังคมและเศรษฐกิจของฮ่องกง รวมถึงการใช้ชีวิตอย่างปกติของประชาชนและการเรียนอย่างปกติของนักเรียนนักศึกษาในย่านเซ็นทรัล ตลอดจนทำลายฐานะของฮ่องกงในโลก ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างฮ่องกงกับจีน กระทั่งตลาดการท่องเที่ยว นับเป็นการกระทำที่ถอยหลังอย่างเลวร้าย
นายหลี่ จั๋วฮุยระบุว่า สภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีนผ่านมติให้ชาวฮ่องกงมีสิทธิ์เลือกตั้งผู้ว่าการเขตบริหารพิเศษฮ่องกง 1 คน 1 เสียงในปี 2017 ซึ่งมีความสำคัญในการให้ฮ่องกงก้าวสู่การเลือกตั้งประชาธิปไตย ดังนั้น ไม่ว่าในแง่ไหนก็ตาม ฝ่ายค้านของฮ่องกงจึงไม่มีเหตุผลใดๆ ที่จะใช้ปฏิบัติการ "ออกคิวพาย เซ็นทรัล" เพื่อเป็นศัตรูกับรัฐบาลกลางและทางการฮ่องกง
นายหลี่ จั๋วฮุยระบุว่า "ออกคิวพาย เซ็นทรัล" เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เป็นเรื่องที่ชาวฮ่องกงส่วนใหญ่รับไม่ได้ ทั้งเป็นสิ่งที่ชาวอาเซียนทุกประเทศไม่ต้องการเห็นด้วย หากทางการฮ่องกงไม่ใช้มาตรการเฉียบขาดเข้าจัดการ ก็จะทำให้ประชาชนฮ่องกงประสบความเสียหายทั้งสิ้น
เขายังระบุด้วยว่า สำหรับอินโดนีเซียแล้ว อินโดนีเซียกับฮ่องกงมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมอย่างแนบแน่น โดยแรงงานชาวอินโดนีเซียที่ทำงานในฮ่องกงมี 130,000 คน วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่ทำการค้าขายกับฮ่องกงมีหลายร้อยราย ด้วยเหตุนี้ เหตุการณ์ "ออกคิวพาย เซ็นทรัล" จึงส่งผลกระทบโดยตรงต่อแรงงานอินโดนีเซียในฮ่องกงและความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างอินโดนีเซียกับฮ่องกง
(YIM/LING)