เมื่อเร็วๆ นี้ กลุ่มไอเอสขยายตัวในพื้นที่ภาคตะวันตกของอิรักและภาคเหนือของซีเรีย สหพันธ์นานาชาติที่นำโดยสหรัฐอเมริกาได้ดำเนินการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มไอเอสกว่า 2 เดือนแล้ว แม้ว่ากลุ่มไอเอสถูกทำลายบ้างก็ตาม แต่ก็ยังมีความแข็งกร้าวในสนามรบบางแห่ง
องค์การสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนซีเรีย ที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงลอนดอนประกาศเมื่อวันที่ 18 ต.ค. ที่ผ่านมาว่า การโจมตีทางอากาศต่อพื้นที่ภาคตะวันออกและภาคเหนือของซีเรียที่ปฏิบัติโดยสหรัฐฯ ในวันเดียวกันนั้น ทำให้ชาวบ้าน 5 คนเสียชีวิต อีก 3 คนได้รับบาดเจ็บ
ในเมืองโคบาเน การปะทะในเขตชายแดนระหว่างซีเรียกับตุรกีของกลุ่มไอเอสกับกองกำลังติดอาวุธชาวเคิร์ดยังคงดำเนินต่อไป องค์การดังกล่าวระบุว่า มีสมาชิกกลุ่มไอเอส 8 คนถูกกองกำลังชาวเคิร์ดโจมตีจนเสียชีวิต นอกจากนี้ กองกำลังชาวเคิร์ดยังได้ยึดอาคารสถานีวิทยุในชานเมืองโคบาเนกลับมา สถานีโทรทัศน์จัตุรัสเลบานอนรายงานว่า ผู้นำกลุ่มไอเอสชื่อ มูฮัมหมัด อัล-จาสเซม เสียชีวิตในการโจมตีของสหรัฐฯ ครั้งนี้
สงครามในภาคตะวันตกของกรุงแบกแดดของอิรักเป็นที่สนใจที่สุด เพราะกลุ่มไอเอสได้ยึดพื้นที่ 80 % ของจังหวัดอันบาร์ และบุกเข้าเมืองรามาดี เมืองเอกของจังหวัดและเป็นประตูทางยุทธศาสตร์สู่ภาคตะวันตกของกรุงแบกแดดต่อไป เมื่อไม่กี่วันก่อน ที่ปรึกษาทางการทหารสหรัฐฯ ประมาณ 100 นายได้เดินทางถึงฐานทัพ 2 แห่งในบริเวณรามาดี เพื่อช่วยอบรมกองทหารรักษาความมั่นคงอิรักและกองกำลังอาวุธกลุ่มซุนนี่ในท้องถิ่น
บุคคลฝ่ายทหารอิรักกล่าวเมื่อวันที่ 19 ตุลาคมนี้ว่า ในการสู้รบบริเวณรอบเมืองรามาดี มีสมาชิกกลุ่มไอเอสอย่างน้อย 50 คนถูกยิงตาย ในพื้นที่ห่างไปทางทิศตะวันตกของเมืองรามาดีประมาณ 90 กิโลเมตร กองทหารรักษาความมั่นคง ตำรวจและกองกำลังติดอาวุธกลุ่มเผ่าชนของอิรักได้จัดกองกำลังผสม โจมตีกลับการบุกรุกของกลุ่มไอเอสอีกครั้ง ยิงสมาชิกกลุ่มไอเอสเสียชีวิต 30 ราย และยึดรถได้หลายคัน
Yim/Lr