สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม นางยูโกะ โอบูจิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม และนางมิโดริ มัสสุชิม่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเป็นสมาชิกคณะรัฐมนตรีของนายชินโซ อาเบะ ทยอยกันยื่นหนังสือขอลาออกจากตำแหน่งและได้รับการอนุมัติจากนายอาเบะ ทั้งนางยูโกะ โอบูจิ และนางมิโดริ มัสสุชิม่า นับเป็นนักการเมืองดาวเด่นที่ขึ้นรับดำรงตำแหน่งหลังนายอาเบะปรับคณะรัฐมนตรีเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงนโยบายที่จะ "ส่งเสริมบทบาทของสตรีบนเวทีการเมือง" นักวิเคราะห์เห็นว่า ที่สมาชิกหญิงคณะรัฐมนตรี 2 คนลาออกจากตำแหน่งพร้อมกันในวันเดียวกัน ย่อมกระทบอำนาจการปกครองของนายอาเบะอย่างรุนแรง
ข่าวอื้อฉาวของนางยูโกะ โอบูจิ มีสองเรื่อง หนึ่ง)ถูกสงสัยฝ่าฝืน "กฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งตำแหน่งราชการ" สอง)ถูกสงสัยใช้เงินหลวงเพื่อประโยชน์ส่วนตัวและกระจายผลประโยชน์ ส่วนนางมิโดริ มัสสุชิม่าถูกกล่าวหาว่าได้แจกพัดที่ประชาสัมพันธ์ตัวเธอเองจำนวนหลายหมื่นใบในเขตการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นพฤติกรรมฝ่าฝืน "กฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งตำแหน่งราชการ"
ข่าวอื้อฉาวดังกล่าวถูกเปิดเผยเมื่อเร็วๆ นี้ ทำให้สมาชิกหญิงทั้งสองของคณะรัฐมนตรีจึงได้รับเสียงประณามอันรุนแรงจากทั้งพรรคฝ่ายค้านและสื่อมวลชน โดยพรรคประชาธิปไตยของญี่ปุ่นยื่นฟ้องร้องนางมิโดริ มัสสุชิม่าต่อสำนักอัยการโตเกียว เรียกร้องให้เริ่มสืบสวนและดำเนินคดีทันที
รัฐบาลของนายชินโซ อาเบะและสมาชิกพรรคส่วนใหญ่ของพรรคเสรีประชาธิปไตยของญี่ปุ่นเห็นว่า ความผิดของนางยูโกะ โอบูจิ รุนแรงมาก ถ้าปกปิดต่อก็คงทำให้ประชาชนไม่พอใจอย่างยิ่ง ส่วนนางมิโดริ มัสสุชิม่าในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หากเข้ากระบวนการดำเนินคดีก็จะผลักดันรัฐบาลของนายอาเบะตกอยู่ในสภาพเก้อเขิน ดังนั้น การที่สองคนนี้ลาออกจากตำแหน่งจึงมีส่วนช่วยลดอิทธิพลทางลบที่มีต่ออำนาจของนายอาเบะ และทำให้รัฐบาลถูกพรรคฝ่ายค้านโจมตีที่การประชุมรัฐสภาอย่างไม่ขาดสายในอนาคตด้วย
ระหว่างปรับคณะรัฐมนตรีเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา นายชินโซ อาเบะเชิดชูแนวนโยบายใหม่สองแนว ได้แก่ "ส่งเสริมบทบาทของสตรีบนเวทีการเมือง" และ "การฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่น" ด้วยเหตุนี้ นายอาเบะจึงแต่งตั้งรัฐมนตรีหญิง 5 คน รวมทั้งนางยูโกะ โอบูจิ และนางมิโดริ มัสสุชิม่าซึ่งล้วนมีแนวคิดทางการเมืองที่ไม่ได้ใกล้ชิดกับนายอาเบะมาก นับเป็นสัญลักษณ์ของนโยบาย "ส่งเสริมบทบาทของสตรีบนเวทีการเมือง" การที่สองคนนี้ลาออกพร้อมกันในวันเดียว ย่อมกระทบอำนาจของนายอาเบะอย่างหนัก
สำนักข่าวเคียวโดนิวส์ของญี่ปุ่นประกาศผลสำรวจประชามติเกี่ยวกับรัฐบาลของนายชินโซ อาเบะล่าสุดเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ปรากฏว่า อัตราการสนับสนุนคณะรัฐมนตรีเหลือเพียงระดับ 48% ลดลง 7% เมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว ขณะที่อัตราไม่สนับสนุนรัฐบาลพุ่งสูงจากระดับ 29% เมื่อเดือนที่แล้วมาเป็น 40% ในปัจจุบัน
YIM/FENG