กรุงเทพฯ – 29 กันยายน 2557 เวลา 18.30 น. นายนิ่ง ฟู่ขุย เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยเป็นประธานในงานฉลองครบรอบ 65 ปีแห่งการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ณ โรงแรมแชงกรีล่า ถนนเจริญกรุง

ภายในงานมีแขกผู้มีเกียรตินานาชาติเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง อาทิ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี, หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี รวมถึงสื่อมวลชนหลากหลายสำนักร่วมแสดงความยินดี

นายนิ่ง ฟู่ขุย เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยกล่าวต้อนรับและขอบคุณผู้มาร่วมงาน รวมทั้งแถลงเรื่องราวการพัฒนาของประเทศจีน ตลอดระยะเวลา 65 ปีที่ผ่านมาจีนได้เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบหน้ามือเป็นหลังมือ อันเป็นผลมาจากการต่อสู้อุปสรรค แน่วแน่ไม่ยอมแพ้ของรัฐบาลและชาวจีนทุกคน จากประเทศที่เคยยากจนล้าหลังกลายมาเป็นประเทศสังคมนิยมที่ทันสมัย เจริญมั่งคั่ง และมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจโลกที่อ่อนกำลังในการฟื้นฟู เศรษฐกิจของจีนโดยรวมในสองไตรมาสแรกของปีนี้ยังถือว่ามีเสถียรภาพ ผลิตภัณฑ์ประชาชาติ (GNP) และมูลค่ารวมนำเข้าส่งออกขยายตัวมากขึ้นเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีที่แล้ว เช่นเดียวกับรายได้ของประชาชนและทุนสำรองระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม จีนยังคงตระหนักว่าในขณะที่ประเทศกำลังพัฒนานั้น ยังมีปัญหาและอุปสรรคหลายอย่างตามมา เช่น การขาดความสมดุลในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม การปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม การชะลอตัวของเศรษฐกิจ ฯลฯ

ด้านสัมพันธไมตรีระหว่างจีนและไทยที่แน่นแฟ้นกันมาช้านานนั้นก็ยังดำรงไว้ด้วยมิตรภาพที่ดีไม่ว่าสถานการณ์สังคมโลกหรือภายในประเทศจะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปเพียงใด ในแง่เศรษฐกิจ จีนยังคงเป็นตลาดส่งออกอันดับหนึ่งของไทย ช่วง 8 เดือนแรกของปีมีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่มาเยือนไทยแล้วมากกว่า 2 ล้าน 6 แสนคน รัฐบาลจีนยังคงให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับการพัฒนาความสัมพันธ์และความร่วมมือกับประเทศไทย ทางจีนหวังว่าเมื่อรัฐบาลชุดใหม่ได้จัดตั้งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สองประเทศจะยังคงเดินหน้าต่อไปในเรื่องความร่วมมือต่างๆไม่ว่าจะเป็นการเจรจาเรื่องยกเลิกวีซ่า หรือการลงทุนร่วมกันในเรื่องการพัฒนาคมนาคมและสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน จีนมีความเชื่อมั่นว่าภายใต้ความร่วมมือและความพยายามของรัฐบาลและประชาชนของทั้งสองประเทศ ความผูกพันและมิตรภาพอันลึกซึ้งมั่นคงจะสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น และความสัมพันธ์ไทยจีนจะเปิดหน้าประวัติศาสตร์ใหม่อย่างแน่นอน

เรียบเรียงและรายงาน: อรอนงค์ อรุณเอก 林敏儿