เมื่อวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา นายเจียง เหว่ย ผู้รับผิดชอบสำนักงานหน่วยนำปฏิรูประบบยุติธรรมแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนชี้แจงรายละเอียดกับสื่อมวลชนทั้งจีนและต่างประเทศเกี่ยวกับ "มติ" ของการประชุมเต็มคณะของคณะกรรมการกลางกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดที่ 18 ครั้งที่ 4 ว่า ในส่วนของความยุติธรรมนั้น มติดังกล่าวได้ให้แนวทางเกี่ยวกับการปฏิรูประบบการบริหารงานยุติธรรมและกลไกการใช้อำนาจยุติธรรมอย่างลึก โดยเน้นปฏิรูปทุกด้าน อย่างเจาะลึกและได้ผลจริง เป็นไปตามความต้องการของสังคมในการสร้างความเสมอภาคทางยุติธรรมและปฏิรูปอย่างลึก ทั้งนี้ เชื่อว่า ทั่วโลกจะเห็นด้วยกับการการส่งเสริมการบริหารการปกครองตามกฎหมาย

นายเจียง เหว่ยระบุว่า "เมื่อการปฏิรูประบบยุติธรรมลงลึกตามแนวดิ่ง ก็ควรออกแบบจากชั้นยอดมากขึ้น และวางแผนทุกด้าน มติฯ ได้วางนโยบายเกี่ยวกับการปฏิรูประบบยุติธรรม โดยมุ่งแก้ปัญหาที่ต้นตอที่ส่งผลกระทบต่อการสร้างความเสมอภาคทางยุติธรรมและขัดขวางอำนาจยุติธรรม เริ่มปฏิบัติจากเรื่องที่สร้างฉันทามติได้ง่ายและเรื่องที่พร้อมปฏิรูป เพื่อประสบผลโดยเร็ว"

ดูจากสถานการณ์ยุติธรรมในเวลานี้ เรื่องที่ประชาชนร้องเรียนค่อนข้างแรงคือ ความไม่เป็นระบบระเบียบ ไม่เป็นธรรม และไม่สุจริตที่เกิดขึ้นในวงการยุติธรรม โดยไม่ต้องการให้เกิดคดีที่ถูกกลั่นแกล้ง คดีเท็จ และคดีผิด รวมถึงป้องกันและปราบปรามการแทรกแซงยุติธรรม ทั้งนี้ นายเจียง เหว่ยระบุว่า ได้กำหนดมาตรการต่างๆ อย่างเฉียบขาดเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวแล้ว เขาระบุว่า

"สำหรับคดีที่ถูกกลั่นแกล้ง คดีเท็จ และคดีผิดนั้น เกิดจากสาเหตุหลายอย่าง จึงต้องใช้มาตรการหลายอย่างเพื่อไม่ให้เกิดคดีดังกล่าว มติฯ ฉบับนี้กำหนดให้เดินหน้าปฏิรูประบบการฟ้องร้อง โดยถือเอาการพิพากษาเป็นหลัก เริ่มต้นจากขั้นการสืบสวนสอบสวน ก็ควรเก็บหลักฐานที่มัดตัวทุกด้านอย่างเป็นระบบระเบียบ เพื่อกันจากต้นเหตุ สำหรับการป้องกันและปราบปรามการแทรกแซงยุติธรรม มติฯ กำหนดว่า จะจัดทำระบบการบันทึก แจ้ง และสืบสวนความรับผิดชอบต่อข้าราชการและผู้ปฏิบัติงานที่แทรกแซงงานยุติธรรม"

(IN/LING)