หนังสือพิมพ์เหรินหมินรายงานว่า เมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา นายจูหมิน รองผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เขียนบทความเผยแพร่ในหนังสือพิมพ์เหรินหมินว่า มาตรการควบคุมดูเลเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนเริ่มมีผล เศรษฐกิจที่เติบโตอย่างมั่นคงของจีนมีความหมายสำคัญต่อทั่วโลก
บทความระบุว่า ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นมา IMF ปรับลดการคาดการณ์เกี่ยวกับการเติบโตของเศรษฐกิจโลกหลายครั้ง แสดงให้เห็นว่า อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มลดลง การเติบโตของเศรษฐกิจโลกหลังวิกฤตการเงินโลกอยู่ในช่วงขาลง
IMF คาดว่า อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปีนี้คือ 3.3% แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัวอยู่ แต่ความต้องการทั่วโลกยังไม่เพียงพอ ระบบการเงินโลกมีความเสี่ยงมากขึ้น เพราะฉะนั้น อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลกอาจจะอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ ถ้าหากการคาดการณ์นี้เป็นความจริง ประเทศต่างๆ ทั่วโลกต้องมีการปรับตัวอีกครั้ง
ในภาพรวมแล้ว เศรษฐกิจในตลาดเกิดใหม่มีอัตราการเติบโตสูง และมั่นคง เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจโลกเติบโตต่อไป คาดว่า อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ และประเทศกำลังพัฒนาในปีนี้จะอยู่ที่ 4.4% ขณะเดียวกัน เศรษฐกิจประเทศเอเชียเติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดว่าอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจเอเชียในปีนี้จะอยู่ที่ 5.5% สูงกว่าภูมิภาคอื่นๆ โดยเฉพาะอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ในเอเชียจะสูงถึง 6.5% เป็นตัวเลขที่น่าชื่นชม ทั้งนี้เป็นเพราะว่า ประเทศเอเชียมีการส่งออก ดึงดูดการลงทุน และความต้องการภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น ในอนาคต เอเชียจะยังคงนำการเติบโตของเศรษฐกิจโลกต่อไป
IMF คาดว่า ปีนี้ อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจจีนจะอยู่ที่ 7.4 % ปีหน้าจะอยู่ที่ 7.1% การที่อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจลดลงเป็นเพราะว่า หนึ่ง รัฐบาลจีนควบคุมสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ การหมุนเวียนที่ลดลงจะทำให้อัตราการเติบโตลดลง สอง การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ลดลง ซึ่งจะส่งผลกระทบถึงเศรษฐกิจจีนด้วย
อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจจีนที่ลดลงจะทำให้การเติบโตของเศรษฐกิจจีนมีความมั่นคงมากขึ้น จนถึงขณะนี้ ตำแหน่งงานใหม่ๆ มีถึง 12 ล้านตำแหน่ง ซึ่งตัวเลขนี้มีความหมายสำคัญไม่ต่ำกว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงถึง 8% หรือ 9%
(In/cici)