สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม รัฐบาลจีนประกาศจุดยืนเกี่ยวกับสิทธิการตัดสินกรณีพิพาททะเลจีนใต้ที่เสนอโดยฟิลิปปินส์ ย้ำอย่างเด็ดขาดว่า จีนไม่ยอมรับ และไม่ร่วมการตัดสินกรณีพิพาททะเลจีนใต้ พร้อมชี้แจงหลักฐานทางกฎหมายที่ว่าศาลระหว่างประเทศไม่มีอำนาจตัดสินข้อพิพาทนี้
นาย Bambang Suryono ประธานมูลนิธิอาเซียนเซาท์ซีของอินโดนีเซียระบุว่า การที่รัฐบาลจีนประกาศจุดยืนนั้นมีความจำเป็นอย่างยิ่งและทันต่อเหตุการณ์ จีนกับประเทศอาเซียนซึ่งรวมทั้งฟิลิปปินส์ ได้ลงนาม "ปฏิญญาว่าด้วยแนวปฏิบัติของภาคีในทะเลจีนใต้" แล้ว เป็นการสัญญาว่าจะแก้ไขกรณีพิพาทด้วยการเจรจา แต่ฝ่ายฟิลิปปินส์ยื่นกรณีพิพาทสู่ศาลระหวางประเทศโดยลำพังฝ่ายเดียวนั้น เป็นพฤติกรรมที่ไม่รักษาคำมั่นสัญญาที่สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลฟิลิปปินส์ไม่น่าเชื่อถือ การที่ฟิลิปปินส์ฝืนกระทำผิดโดยไม่ใส่ใจต่อความสัมพันธ์จีน-อาเซียนที่กำลังพัฒนาด้วยดีนั้น ย่อมถูกคัดค้านจากจีนและผู้ที่รักสันติภาพของอาเซียน
นาย U Tun นักวิชาการเมียนมาร์เห็นว่า จุดยืนของรัฐบาลจีนชัดเจนและมั่นคงโดยตลอด ส่วนจุดยืนของอาเซียนคือให้ประเทศคู่กรณีจัดการเจรจาเพื่อแก้กรณีพิพาทอย่างสันติ ขณะนี้ อาเซียนกับจีนกำลังพยายามปฏิบัติตาม "ปฏิญญาว่าด้วยแนวปฏิบัติของภาคีในทะเลจีนใต้" เพื่อบรรลุหลักการว่าด้วยแนวปฏิบัติของภาคีในทะเลจีนใต้ และร่วมพิทักษ์สันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค เขากล่าวว่า ตั้งแต่พฤษภาคมที่ผ่านมา บรรยากาศอันตึงเครียดบนทะเลจีนใต้ผ่อนคลายลงอย่างมาก จึงไม่มีใครอยากเห็นข้อพิพาทเกิดขึ้นอีกในทะเลจีนใต้ ท่ามกลางบรรยากาศที่ผ่อนคลายลง ฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องไม่ควรกระทำให้สถานการณ์สลับซับซ้อนและทวีความรุนแรงขึ้น ความมุ่งหมายที่ยกระดับกรณีพิพาททะเลจีนใต้ให้เป็นปัญหาสากลนั้น ย่อมไม่เป็นประโยชน์ต่อการแก้ปัญหา
นายเฉียน เฟิง รองผู้อำนวยการหนังสือพิมพ์ "ย่าโจวรื่อเป้า" ของไทยเห็นว่า จุดยืนของรัฐบาลจีนชัดเจ็นมาก ด้านหนึ่ง ฟิลิปปินส์ไม่มีสิทธิ์ที่ยื่นข้อพิพาทไปสู่ศาลระหว่างประเทศ อีกด้านหนึ่ง ศาลระหว่างประเทศก็ไม่มีอำนาจตัดสินคดีทะเลจีนใต้ เขากล่าวว่า ประชาคมโลกให้ความสนใจระดับสูงต่อข้อพิพาททะเลจีนใต้ และยอมรับจุดยืนอันเด็ดเดี่ยวของจีน เกี่ยวกับปัญหาข้อพิพาทเหนือดินแดน จีนแทนที่จะกดดันข่มขู่ กลับแสดงหลักฐานทางกฎหมายและจัดการอย่างสมเหตุสมผล จึงเป็นที่น่าสนับสนุน
YIM/FENG