สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา กระทรวงพิทักษ์สันติราษฎร์แห่งชาติจีนเผยในการแถลงข่าวว่า จากเดือนกรกฎาคมถึงปลายเดือนธันวาคมปี 2014 ในช่วงปฏิบัติการเฉพาะกิจ "เลี่ยหูหรือล่าจิ้งจอกปี 2014" ที่เป็นเวลาครึ่งปีนั้น จีนได้จับกุมผู้ต้องหาในคดีก่ออาชญากรรมทางเศรษฐกิจที่หลบหนีไปต่างประเทศ 680 คนใน 69 ประเทศและเขตแคว้นทั่วโลก ในจำนวนนี้ มีผู้ที่ถูกจับกุม 290 คน ส่วนผู้ที่มอบตัวเป็น 390 คน
นายสวู่ เย่าโถง ศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยการบริหารการจัดการแห่งชาติจีนกล่าวว่า การที่จีนดำเนินปฏิบัติการไล่ล่าผู้กระทำผิดที่หนีไปต่างประเทศเพื่อเรียกคืนทรัพย์สินที่โกงไปในทั่วโลกอย่างขนานใหญ่ ได้ตอบสนองการเรียกร้องของประชาชนจีนและก็ยับยั้งทุจริตคอรัปชั่นด้วย ด้านหนึ่งได้จับกุมเจ้าหน้าที่ทุจริตคอรัปชั่นที่เอาทรัพย์สินหนีไปต่างประเทศคืนได้จำนวนหนึ่ง นอกจากนั้นยังสอบสวนเบาะแสอาชญากรรมจำนวนหนึ่ง ได้นำมาซึ่งผลดีต่องานการปราบปรามทุจริตคอรัปชั่นด้วย
อาชญากรรมทางเศรษฐกิจเกี่ยวพันกับปฏิบัติการปราบปรามทุจริตคอรัปชั่นอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะเห็นได้อย่างชัดเจนจากผลปฏิบัติการ"เลี่ยหู ปี 2014"ที่ประชุมเอเปคของเมื่อปีที่แล้วได้ผ่านแถลงการณ์ว่าด้วยการปราบปรามทุจริตคอรัปชั่นแห่งกรุงปักกิ่ง ซึ่งเป็นเอกสารเกี่ยวกับการปราบปรามทุจริตคอรัปชั่นฉบับแรกในโลกที่ริเริ่มร่างขึ้นโดยจีน ซึ่งประเทศสหรัฐฯ ออสเตรเลีย และแคนาดา เป็นต้น ที่ยังไม่ร่วมในสนธิสัญญาว่าด้วยการจัดส่งนักโทษข้ามแดนกับจีน ก็ได้ลงนามในแถลงการณ์ฉบับนี้ นี่แสดงให้เห็นว่า การปราบปรามทุจริตคอรัปชั่นข้ามชาติของจีนได้เสริมกำลังสูงขึ้น
ถึงเดือนพฤศจิกายนปี 2014 จีนกับต่างประเทศในโลกได้ลงนามสนธิสัญญาว่าด้วยการส่งตัวนักโทษข้ามแดน 39 รายและสนธิสัญญาว่าด้วยการให้ความช่วยเหลือด้านยุติธรรมทางอาญา 52 ราย นอกจากนั้น จีนกับสหรัฐ และแคนาดายังสร้างกลไกแห่งความร่วมมือด้านยุติธรรมและการปฏิบัติตาม ซึ่งแสดงว่า จีนได้สร้างเครือข่ายความร่วมมือในโลกเพื่อไล่ล่าการหลบหนีไปต่างประเทศเพื่อเรียกคืนทรัพย์สินที่โกงไปในทั่วโลกในขั้นพื้นฐานแล้ว ซึ่งได้ตัดขาดลู่ทางของพวกทุจริตคอรัปชั่นที่หอบเอาเงินที่โกงมาหนีไปต่างประเทศ
นายไช่ เซี๋ย ศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนกล่าวว่า การที่จีนเสริมความร่วมมือในด้านการปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นกับประเทศต่างๆทั่วโลก แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจและความเปิดเผยของจีน และแสดงว่า จีนให้ความสนใจอย่างสูงในการปราบปรามทุจริตคอรัปชั่นตามกฎหมาย เขาเห็นว่า ปฏิบัติการเฉพาะกิจที่คล้ายกับ"เลี่ยหู ปี 2014"ครั้งนี้ควรดำเนินต่อไป และกลายเป็นกลไกปกติที่ต่อเนื่อง ไม่เพียงแต่จะส่งผลถึงด้านนโยบายเท่านั้น หากยังต้องใช้ปฏิบัติการร่วมกันกับระบอบ และจับกุมพวกทุจริตคอรัปชั่นมากยิ่งขึ้นและเร็วยิ่งขึ้นด้วย Yim/LJ