เมื่อเปรียบเทียบกับเศรษฐกิจจีนที่เติบโตอย่างรวดเร็วเมื่อหลายปีก่อน ปีหลังๆ นี้ เศรษฐกิจจีนมีอัตราเติบโตที่ชะลอตัวลง จนมีส่วนหนึ่งจึงกังวลใจต่ออนาคตเศรษฐกิจจีน ต่อการนี้ นายหลี่ เค่อเฉียง ได้ส่งสัญญาณบวกว่า เศรษฐกิจจีนจะไม่ถดถอยอย่างรุนแรง จีนจะใช้มาตรการป้องกันไม่ให้เกิดความเสี่ยงต่อระบบการเงิน ศาสตราจารย์หลี่ เต้าขุย สถาบันบริหารเศรษฐกิจ มหาวิทยาลัยชิงหวาของจีนแสดงความเห็นว่า คำมั่นสัญญาที่นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนให้ไว้นั้นสามารถช่วยขจัดความกังวลใจของชาวต่าง ชาติที่มีต่อเศรษฐกิจจีน
ระหว่างกล่าวปาฐกถา นายหลี่ เค่อเฉียงได้บรรยายสรุปยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจของจีนใน อนาคต คือ จะปรับการพัฒนาเศรษฐกิจที่เติบโตด้วยความเร็วสูงไปเป็นความ เร็วระดับปานกลางค่อนข้างสูง และให้การพัฒนาเศรษฐกิจที่มีคุณภาพในระดับปานกลางค่อนข้างต่ำไป เป็นระดับปานกลางค่อนข้างสูง
ด้านศาสตราจารย์หลิน อี้ฟู สถาบันการพัฒนาประเทศ มหาวิทยาลัยปักกิ่งของจีนกล่าวว่า เศรษฐกิจจีนกำลังเข้าสู่ช่วงการพัฒนาด้วยรูปแบบใหม่ๆ ในช่วง 36 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจจีนเติบโตด้วยความเร็วเฉลี่ยต่อปี 9.7% ปัจจุบัน เศรษฐกิจเติบโตด้วยความเร็วประมาณ 7% ซึ่งได้ปรับลดลงมาบ้างแล้ว จากช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่า เศรษฐกิจจีนได้รับการปรับปรุงอย่างเป็นขั้นเป็นตอนและเติบโต อย่างเป็นปกติ
ศาสตราจารย์หลี่ เต้าขุย กล่าวว่า ปัจจุบัน เศรษฐกิจจีนต้องเติบโตด้วยความเร็วระดับปานกลางค่อนข้างสูง ซึ่งหมายความว่า ไม่ควรปล่อยให้ตกต่ำลงอย่างมาก และไม่ควรเร่งให้เติบโตด้วยความเร็วสูง
สำหรับโครงสร้างอุตสาหกรรม ช่วงกว่า 30 ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมจีนที่มีลักษณะเน้นใช้แรงงานมากและมีมูลค่าเพิ่มต่ำมี สัดส่วนในอุตสาหกรรมโดยรวมค่อนข้างสูง ปัจจุบัน ต้นทุนแรงงานแพงขึ้น จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องแปรอุตสาหกรรมลักษณะนี้ให้กลาย เป็นอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานน้อยลง และมีมูลค่าเพิ่มสูง
ด้านศาสตราจารย์หลิน อี้ฟู เห็นว่า ช่วงที่ผ่านมา อุตสาหกรรมจีนมีลักษณะใช้แรงงานมากและต้องพึ่งการนำเข้า เทคโนโลยีจากต่างประเทศ ในอนาคต การพัฒนาอุตสาหกรรมจีนต้องพึ่งพาอาศัยนวัตกรรมของตนมากขึ้น และต้องปรับเปลี่ยนนโยบายที่เกี่ยวข้องต่างๆ รวมถึงต้องลดขั้นตอนการตรวจสอบจากหน่วยงานรัฐบาล และให้การสนับสนุนด้านการเงินแก่อุตสาหกรรมเหล่านี้มากขึ้น นอกจากนี้ รัฐบาลยังต้องเพิ่มการลงทุนด้านการศึกษา สนับสนุนการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขั้นพื้นฐาน เชื่อว่า การกระทำเช่นนี้จะช่วยทำให้อุตสาหกรรมจีนมีศักยภาพด้าน นวัตกรรมมากขึ้น (YIN/cai )