เมื่อวันที่ 3-6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา การเจรจาเกี่ยวกับการพัฒนาเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนให้มีระดับสูงขึ้นรอบที่ 2 ที่จัดขึ้นที่กรุงปักกิ่ง ประสบผลคืบหน้าอย่างเห็นได้ชัด โดยการเจรจารอบแรกได้จัดขึ้นที่กรุงฮานอยของเวียดนามเมื่อเดือนกันยายนปี 2014

ในที่ประชุมครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ผลักดันกระบวนการเจรจาเพื่อยกระดับการพัฒนาเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน และได้จัดการประชุมอภิปรายในประเด็นต่างๆ อีก 7 ครั้ง อันได้แก่ การค้าบริการ การลงทุน ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การให้ความสะดวกทางการค้ากับขั้นตอนศุลกากร กฎเกณฑ์สถานที่ผลิตดั้งเดิม มาตรฐาน ระเบียบกฎหมายของเทคโนโลยีกับขั้นตอนการประเมินและมาตรการการรักษาความสะอาดของพันธุ์พืช โดยต่างฝ่ายต่างก็ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างลึกซึ้ง

นายจาง ยุ่นหลิ่ง ผู้เชี่ยวชาญปัญหาอาเซียนของจีน ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยระหว่างประเทศของสภาสังคมและวิทยาศาสตร์จีนเห็นว่า รูปแบบของเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนได้ปูพื้นฐานที่ดี การพัฒนามากยิ่งขึ้นต้องการความร่วมมือและการเปิดสู่ภายนอกมากยิ่งขึ้นเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ จึงต้องพัฒนาเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนให้มีระดับสูงยิ่งขึ้น

นายจาง ยุ่นหลิ่งระบุว่า การพัฒนาเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนได้พิจารณาจากสภาพความเป็นจริงของจีนกับอาเซียน ได้ปฏิบัติตามเอกลักษณ์พิเศษของตน สร้างรูปแบบพัฒนาของตน เนื่องจากมีประเทศที่เกี่ยวข้องมากมาย และเป็นประเทศกำลังพัฒนาด้วย จึงได้ใช้รูปแบบเขตการค้าเสรีที่แตกต่างกับรูปแบบสากล

เอกลักษณ์พิเศษของเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนได้ผลักดันให้ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างจีนกับอาเซียนพัฒนาในทุกด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพัฒนาการในการค้า ระหว่างปี 2002-2012 ยอดมูลค่าการค้าแบบทวิภาคีได้เติบโตขึ้นถึง 10 เท่า ซึ่งเป็นสภาพที่ไม่เคยมีมาก่อน ปัจจุบัน อาเซียนได้กลายเป็นคู่ค้าอันดับที่ 3 ของจีน ส่วนจีนเป็นคู่ค้าอันดับแรกของอาเซียน

(Toon/zheng)