ปี 2014 ที่ผ่านมา จีนได้กลายเป็นประเทศที่ลงทุนในต่างประเทศมากกว่ายอดการใช้ทุนต่างชาติ ยอดการลงทุนในต่างประเทศที่เติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องของจีนนั้น ส่งผลอย่างมหาศาลต่อทั้งจีนและทั่วโลก ทว่า รัฐบาล ผู้เชี่ยวชาญและนักธุรกิจจีนต่างมีความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่า ทุกวันนี้ จีนเป็นเพียงประเทศขนาดใหญ่ในด้านการลงทุน ยังต้องเดินหน้าอีกไกลจึงจะก้าวขึ้นเป็นประเทศที่เรียกได้ว่า มีความเข้มแข็งในด้านการลงทุนจริงๆ

หลังจากปฏิรูปและเปิดประเทศนานกว่า 30 ปี ยอดการลงทุนในต่างแดนของจีนนั้น มากกว่ายอดการลงทุนที่จีนได้รับจากต่างชาติ สถิติล่าสุดแสดงว่า ปัจจุบัน จีนกลายเป็นประเทศที่มียอดการลงทุนในต่างแดนโดยตรงมากเป็นอันดับที่ 3 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น จนถึงปลายปี 2014 ยอดการลงทุนในต่างประเทศของจีนทะลุ 660,000 ล้านเหรียญสหรัฐ กระจัดกระจายไปตามประเทศต่างๆ ทั่วโลก แต่เมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้ว การลงทุนในต่างแดนของจีนยังคงอยู่ในขั้นเริ่มต้น นายจาง เซี่ยงเฉิน ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จีนเห็นว่า ต่อที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนาที่ได้กำหนดดัชนี TNI เพื่อใช้ในการประเมินคุณภาพและระดับการลงทุนในต่างแดนของบริษัทข้ามชาติ โดยพิจารณาจากสัดส่วนมูลค่าทรัพย์สินในต่างชาติในยอดมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมด สัดส่วนรายได้จากต่างแดนต่อรายได้ทั้งหมด และสัดส่วนของพนักงานที่ทำงานต่อต่างชาติต่อพนักงานทั้งหมด เมื่อบวกสัดส่วนของทั้ง 3 อย่างดังกล่าวแล้วหาร 3 ก็จะได้ค่าดัชนี TNI และหากสูงกว่า 20% ก็แสดงว่า บริษัทข้ามชาติรายนี้มีศักยภาพสูง ขณะนี้ บริษัทจีนที่ลงทุนในต่างชาติที่มีดัชนี TNI สูงกว่า 20% ยังคงมีอยู่น้อยมาก ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า จีนยังต้องเดินหน้าอีกไกลจึงจะก้าวขึ้นเป็นประเทศเข้มแข็งด้านการลงทุน

TOON/FENG