นายอาเบะเป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนแรกที่กล่าวปราศัยในที่ประชุมร่วมของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาสหรัฐฯ เขาแสดงท่าทีต่อสงครามโลกครั้งที่ 2 ว่า ญี่ปุ่นเดินหนทางของตนเองพร้อมความรู้สึกผิดอย่างมากต่อสงคราม การกระทำของญี่ปุ่นสร้างความทุกข์ทรมานให้กับประชาชนประเทศต่างๆ ในเอเชีย เขาระบุว่า ในปัญหาสงครามโลกครั้งที่ 2 เขาจะใช้ท่าทีเฉกเช่นกับนายกรัฐมนตรีทุกสมัยที่ผ่านมา และย้ำว่า ญี่ปุ่นต้องใช้ความพยายามมากขึ้นเพื่อการพัฒนาของเอเชีย ต้องทุ่มกำลังเพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาค เขารู้สึกภาคภูมิใจที่ญี่ปุ่นเลือกเดินหนทางของตนเองหลังสงครามโลกสิ้นสุดลง
เมื่อกล่าวถึงทหารสหรัฐฯ ที่เสียชีวิตจากสงครามโลกครั้งที่ 2 นายอาเบะกล่าวว่า ก่อนเดินทางไปรัฐสภา เขาไปเยี่ยมหอรำลึกสงครามโลกครั้งที่ 2 ของสหรัฐฯ ขอไว้อาลัยอย่างสุดซึ้งและขอแสดงความเคารพอย่างสูงต่อชาวอเมริกันที่เสียชีวิตจากสงคราม
ตั้งแต่ต้นจนจบ นายอาเบะไม่ได้เอ่ยคำว่า"ขออภัย"แม้แต่คำเดียว และก็ไม่ได้กล่าวถึงปัญหาหญิงบำเรอด้วย ถ้อยคำที่ดูเหมือนเกี่ยวโยงถึงปัญหานี้มากที่สุดคือ"การปะทะทางทหารมักทำให้สตรีได้รับความเสียหายมากที่สุด" นายไมค์ ฮอนดา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เห็นว่า การกล่าวปราศรัยของนายอาเบะหลบเลี่ยงปัญหาหญิงบำเรออีกเช่นเคย ถือเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้และน่าอับอาย การไม่ยอมรับสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ ถือเป็นการทำร้ายจิตใจของสตรีที่เคยถูกบำคับให้เป็นหญิงบำเรอ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้