เมื่อกำหนดวันกลับบ้านได้และขอเจ้านายเรียบร้อย ก็ได้เวลาตามล่าหาตั๋ว ถ้าจำไม่ผิด ผมเริ่มค้นหาตั๋วเครื่องบินโดยสารกลับไทยราวเดือนมกราคม และก็สอยมาในราคาที่ถูกที่สุดซึ่งก็ได้มาในช่วงปลายพฤษภาคม ให้เดาคร่าว ๆ ราคาตั๋วที่น่าจับตามองคือก่อนเดินทางประมาณ 3 เดือนนะครับ แต่ก็แล้วแต่กับสายการบิน เอเจนซี่ หรือโปรโมชั่นอีกอยู่ดีนั่นแหละ งวดนี้เลขที่ออกไป-กลับ ปักกิ่ง-เชียงใหม่ (แวะต่อเครื่องที่กวางโจว) รวมแล้วอยู่ที่ประมาณ 13,000 บาทกับสายการบิน Full Service อย่าง China Southern Airline ครับ

ผมจองตั๋วผ่านเว็บไซต์ท่องเที่ยวชื่อดังของจีน (CTRIP) เจ้านี้รับประกันว่าไว้ใจได้และเขาก็มีแอปพลิเคชันให้โหลดเข้ามือถือด้วยครับ ใครจองผ่านช่องทางนี้ก็จะได้ส่วนลดเพิ่มขึ้นไปอีก หลังจากที่ผมจ่ายเงินเรียบร้อย ทาง CTRIP ก็จะส่งอีเมล์มายืนยันการจองอีกครั้ง และพอใกล้ ๆ จะบินก็จะส่งข้อความเตือนผ่านโทรศัพท์มือถือด้วยเหมือนกัน โดยรวมน่าประทับใจดีครับ

จากปักกิ่งกลับไปเชียงใหม่บ้านเกิดผม มีหลายสายการบินให้เลือกสรร นับตั้งแต่เชียงใหม่กลายมาเป็นจังหวัดยอดนิยมในการท่องเที่ยวของชาวจีน อะไรต่าง ๆ ก็ดูจะง่ายขึ้น บินตรงก็มีครับ สายการบินประจำชาติจีน Air China 4 ชั่วโมงครึ่งถึงราคาก็อยู่ที่ขาละประมาณ หมื่นนิด ๆ ไอ้ตัวเบี้ยน้อยหอยน้อยอย่างผมและเลยขอราคาสบายกระเป๋าเสียหน่อย แม้จะต้องคอยต่อเครื่องก็ยอม ก็เลยมาลงเองที่ China Southern Airline ครับ ด้วยราคาตั๋วที่ถูกที่สุด ณ ขณะนั้น ใช้เวลาต่อเครื่องดีสุด (ไม่เกิน 2 ชั่วโมง) ไม่ต้องลงมาที่สุวรรณภูมิแล้วย้อนกลับขึ้นมาอีกเพราะเจ้านี้เขามีฐานบัญชาการใหญ่อยู่ที่เมืองกวางโจวทางตอนใต้ของจีน

สนามบินในปักกิ่งจะมีทั้งหมด 3 แห่งด้วยกัน คุณผู้อ่านต้องเช็คตรงนี้ดี ๆ นะครับว่าต้องไป Check In ที่ Terminal ไหน เพราะแต่ละ Terminal ตั้งอยู่ห่างกันพอสมควร ของ China Southern ดีหน่อยที่เขาใช้ Terminal 2 ขนาดของสนามบินแห่งนี้จะพอ ๆ กับสนามบินดอนเมืองบ้านเรา เลยไม่ค่อยวุ่นวายเท่าไหร่ แบ่งสัดส่วนระหว่างผู้โดยสารภายในประเทศกับต่างประเทศอย่างชัดเจน และถึงแม้ผมจะเดินทางไปต่างประเทศ แต่ถ้าเป็นการเดินทางที่ต้องแวะสายการบินไหนในประเทศก่อน ยกตัวอย่างของผมเองต้องไปลงกวางโจวก่อนจะนั่งต่อไปเชียงใหม่ ก็ต้องไป Check In ที่ฝั่งของสายการบินภายในประเทศก่อนครับ เพราะฝั่งนี้เขาก็จะแยกออกเป็นอีก 2 โซนอยู่ดีคือมีปลายทางเป็นสนามบินภายในประเทศ หรือปลายทางต่างประเทศแต่ต้องแวะต่อเครื่องภายในประเทศ

เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินยิ้มแย้มแจ่มใส พูดภาษาอังกฤษได้ชัดเจนครับ ที่นั่งชั้นประหยัดสามารถโหลดสัมภาระได้ 23 กิโลกรัม หิ้วกระเป๋าขึ้นเครื่องได้อีกหนึ่งใบ (จากที่สังเกต ไม่พบว่าไม่มีการชั่งน้ำหนักกระเป๋าถือก่อนขึ้นเครื่องนะครับ) คุณผู้อ่านท่านใดกังวลว่าต้องมารอรับเจ้ากระเป๋าใบใหญ่เพื่อไปโหลดใต้ท้องเครื่องอีกลำให้เมื่อยก็สบายใจได้เพราะ Full Service ระดับนี้เขาจัดการให้เราหมดแล้วครับ ไปรอรับเอาปลายทางได้เลย

จากปักกิ่งไปกวางโจวใช้เวลาบินประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งครับ ภายในตัวเครื่องสะอาด ที่นั่งกว้างขวาง มีสื่อบันเทิงให้เล่นครบครันผ่านแท็บเล็ตหน้าจอสัมผัสได้ตรงหน้า เสียนิดหน่อยคือหูฟังที่ปรับเสียงดังไม่ได้เท่าไหร่นัก การบริการของแอร์-สจ๊วตก็สุภาพดีมีความอดทนสูง สังเกตได้จากการรับมือกับมนุษย์ป้ากลุ่มหนึ่งได้โดยสันติวิธี

อีกสิ่งหนึ่งที่ทุกท่านคงสงสัยไม่แพ้กันกับสภาพเครื่องและการบริการคงหนีไม่พ้น "อาหาร" ใช่ไหมครับ ไฟล์ทจากปักกิ่งไปกวางโจวอาหารจะเป็นชุดใหญ่หน่อยคือมีจานหลักให้เลือกทานด้วย ขณะนั้นมีข้าวหน้าปลากับบะหมี่ไก่ให้เลือก ผมก็เลือกบะหมี่ไก่ไป สภาพก็ตามภาพเลยครับ ตรงนี้ให้พูดตรง ๆ ก็รู้สึกว่าอาจจะยังต้องปรับรสชาติอาหารและความมันอยู่เยอะ สำหรับเจ้า Snack Box ก็สอบผ่านไปได้ด้วยคะแนนฉิวเฉียด

เมื่อเครื่องลงจอดที่สนามบินกวางโจวแล้ว หลังจากตรงนี้ต้องเดินไกลหน่อยครับ ข้ามอาคารกันเลยทีเดียว ระหว่างทางก็จะเห็นฝูงเครื่องบินของ China Southern เทียบงวงช้างเต็มไปหมดสมกับเป็นฐานการบินหลักของเจ้านี้เสียจริง ๆ

ใช้เวลาอีกประมาณ 2 ชั่วโมงครับถึงเชียงใหม่ ขานี้ใช้เครื่องขนาดเล็กกว่าลำก่อนขึ้นบิน ไม่มีสื่อบันเทิงและอาหารก็แจกเฉพาะของว่าง

โดยรวมแล้วรับได้กับคุณภาพและการบริการที่สมราคากับค่าใช้จ่ายที่เสียไปครับ อาจจะไม่ได้หวือหวาตาวาวเท่าไหร่ แต่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีสำหรับชาวเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงที่อยากจะเดินทางมาปักกิ่งด้วยราคาน่ารัก การบริการเต็มรูปแบบ และไม่ต้องเสียเวลาลงไปอ้อมที่กรุงเทพฯนะครับ