กรุงเทพฯ – "เส้นทางสายไหมทางทะเล" หรือ Maritime Silk Road เป็นคำที่ผู้ที่สนใจด้านจีนและอาเซียนจะได้ยินบ่อยที่สุดคำหนึ่งในช่วงระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา เส้นทางสายไหมทางทะเลเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ที่แสดงให้เห็นถึงการติดต่อสัมพันธ์และการเดินทางของคนในอดีตที่มีมากกว่าการค้าขายหรือแลกเปลี่ยนสินค้า ด้วยการที่ภาษา วัฒนธรรม ข้าวของเครื่องใช้ได้ถูกเผยแพร่จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง ความแปลกใหม่จากการมาเยือนของอาคันตุกะค่อยๆกลมกลืนเป็นส่วนหนึ่งของความคุ้นเคยในท้องถิ่น เชื่อมความรู้สึกและความเข้าใจที่ดีต่อกัน เพราะว่าการเรียนรู้เกิดขึ้นได้จากหลายทักษะไม่ใช่แต่เฉพาะต้องนั่งศึกษาแต่ในห้องเพียงอย่างเดียว วันนี้เรามีกิจกรรมที่น่าสนใจมานำเสนอ นิทรรศการนี้นอกจากจะเหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบงานศิลปะเป็นทุนเดิมแล้ว ยังถูกจริตกับคนที่อยากจะเรียนรู้ประวัติศาสตร์ผ่านทางภาพวาดอีกด้วย

เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2558 ณ ห้องประชุมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป มีการแถลงข่าวกิจกรรมนิทรรศการภาพเขียนสีน้ำมัน "เส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21" โดยจิตรกรเฝิง เส้าเสีย (冯少协) โดยงานนี้ได้รับความร่วมมือจากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย กระทรวงวัฒนธรรม และสมาคมนักธุรกิจยุคใหม่ไทย-จีนเป็นผู้จัดงาน

นายเฉินเจียง อุปทูตฝ่ายวัฒนธรรม สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยกล่าวถึงสิ่งที่น่าดึงดูด 3 ประการที่ทำให้ชาวไทยไม่ควรพลาดนิทรรศการ"เส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21" ดังนี้ อันดับแรก - ถึงแม้ว่าปีนี้จะมีศิลปินจากจีนมาจัดแสดงผลงานภาพวาดในไทยไม่ต่ำกว่า 20-30 ท่านแต่ว่าครั้งนี้มีความพิเศษคือขนาดภาพค่อนข้างใหญ่ (150*100 ซม.) และมีจำนวนไม่น้อย (30 ภาพ) อันดับต่อมาคือหัวข้อที่น่าสนใจ – เส้นทางสายไหมมีสองเส้น ได้แก่ทางบก ที่เริ่มตั้งแต่ฉางอัน (เมืองหลวงของจีนในสมัยโบราณ) ไปทางเขตปกครองตนเองอุยกูร์ซินเจียงยาวจนไปถึงแถวเปอร์เซีย และเส้นทางสายไหมทางทะเล ที่เริ่มตั้งแต่ประเทศจีนผ่านมาทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ช่องแคบมะละกาและไปสุดที่แอฟริกา ส่วนข้อสุดท้ายคือวิธีการลงสีของภาพ – ชาวต่างชาติส่วนใหญ่จะคิดว่าศิลปินจีนมากกว่า 90% วาดภาพด้วยพู่กันจีนหรือภาพวาดโดยน้ำหมึกจีน แต่แท้จริงแล้วมีศิลปินชาวจีนจำนวนเกือบครึ่งหนึ่งที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านภาพวาดสีน้ำมัน แต่ถึงกระนั้นชาวต่างชาติรวมถึงคนไทยก็ไม่ค่อยจะได้เห็นภาพวาดสีน้ำมันโดยศิลปินชั้นเอกจากจีนที่มีขนาดใหญ่บ่อยนัก

ด้านนางสาวอัจฉรา แข็งสาริกิจ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลปให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าผลงานที่จะนำมาจัดแสดงครั้งนี้เป็นผลงานที่สร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ทำการจัดแสดงครั้งแรกไปแล้วที่ประเทศจีนและวางแผนจะเดินทางไปจัดแสดงตามประเทศต่างๆ โดยเฉพาะประเทศที่อยู่ในเขตเส้นทางสายไหมทางทะเล ซึ่งไทยเป็นที่แรกของการออกนอกบ้านในครั้งนี้ ก่อนที่จะไปจัดแสดงต่อที่หอศิลป์มะละกา ประเทศมาเลเซีย นอกจากนี้ ทางอาจารย์เฝิง เส้าเสียยังได้วางแผนจะมอบหนึ่งภาพจากนิทรรศการชุดนี้ให้แก่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลปไปทำการเก็บรักษา

วัตถุประสงค์ที่สำคัญของงานนี้ นอกจากจะเป็นการฉลองครบรอบ 40 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีนแล้ว ทางคณะผู้จัดยังต้องการใช้ผลงานศิลปะมาถ่ายทอดการเปลี่ยนแปลงทางประวัติศาสตร์โดยเชื่อมโยงกับชีวิตความเป็นอยู่ของปัจจุบัน เพื่อให้คนในยุคนี้เข้าใจสิ่งที่ผ่านมาในอดีตให้ดียิ่งขึ้น นายบุญยง ยงค์เจริญรัฐ นายกสมาคมนักธุรกิจไทยจีนกล่าวเสริม

นิทรรศการภาพเขียนสีน้ำมัน "เส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21" โดยศิลปินเฝิง เส้าเสียจะจัดแสดงเป็นเวลา 1 เดือน ณ ห้องนิทรรศการ 1-4 พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป ถนนเจ้าฟ้า ตั้งแต่วันที่ 4-31 กรกฎาคม 2558 (หยุดทุกวันจันทร์และอังคาร) เวลา 9.00-16.00 น. สำหรับคนที่สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป (เบอร์ 0 2281 2224) ในวันและเวลาราชการ

เรียบเรียงและรายงาน: อรอนงค์ อรุณเอก 林敏儿