หากจะเปิดโครงการในเกาะบาหลี แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงนี้ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมคือสิ่งที่ต้องพิจารณาเป็นลำดับสำคัญ นายหวัง จื่อฮ่าว ผู้จัดการใหญ่โครงการฯ ระบุว่า กลุ่มหัวเตี้ยนมุ่งมั่นจัดทำโครงการนี้ให้เป็นโครงการตัวอย่างสีเขียวของท้องถิ่น "ด้วยเหตุนี้ จึงเพิ่มทุนจำนวน 10,000,000 เหรียญสหรัฐฯ สำหรับการสร้างสนามถ่านหินรูปทรงกลม (โดม) เพื่อระงับฝุ่นละอองถ่านหินและไอเสีย ส่วนน้ำเสียก็มีระบบจัดเก็บรีไซเคิล แทบไม่มีการปล่อยมลพิษ"
นายหวัง จื่อฮ่าวระบุว่า โครงการโรงกำเนิดไฟฟ้าพลังถ่านหินเกาะบาหลีโดยกลุ่มหัวเตี้ยนลงทุนทั้งหมด 630 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คาดว่าเมื่อสร้างแล้วเสร็จอัตราการจ่ายไฟจะคิดเป็นร้อยละ 40 ของเกาะบาหลี
นายหวัง จื่อฮ่าวยังระบุด้วยว่า โรงกำเนิดไฟฟ้าพลังถ่านหินนี้ใช้ทรัพยากรถ่านหินของอินโดนีเซีย ซึ่งมีอยู่มาก ช่วยลดต้นทุนการผลิต ช่วยประหยัดพลังงาน และลดปริมาณการปล่อยมลพิษ ทั้งมีส่วนช่วยปรับปรุงระบบนิเวศของถ้อนถิ่นให้ดีขึ้นด้วย ในอนาคตข้างหน้า กลุ่มหัวเตี้ยนจะว่าจ้างพนักงานท้องถิ่นให้มากขึ้น และถ่ายโอนเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับโรงไฟฟ้าให้แก่พนักงานท้องถิ่นด้วย
ด้านนายหลี่ จั๋วฮุย บรรณาธิการใหญ่นิตยสาร "มนต์เสน่ห์บาหลี" ฉบับภาษาจีนรายสองสัปดาห์ของเกาะบาหลีระบุว่า "การที่ผู้ประกอบการจีนลงทุนกิจการไฟฟ้าของอินโดนีเซียมีส่วนส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจอินโดนีเซีย ไม่เพียงแต่มีส่วนช่วยให้ชาวอินโดนีเซียร้อยละ 97 มีไฟฟ้าใช้ในปี 2019 ตามเป้าหมายที่กำหนดเท่านั้น หากยังมีส่วนผลักดันการพัฒนาบ้านเมืองของอินโดนีเซีย ดึงดูดการลงทุน สร้างตำแหน่งงานใหม่ ให้ชาวบ้านมีกำลังซื้อมากขึ้น และสร้างสมดุลระหว่างทุกพื้นที่ด้วย"
(TOON/LING)