เรื่องการคมนาคมระหว่างเขตสนามแข่งขัน 3 เขตของกรุงปักกิ่งนั้น รายงานประเมินของคณะกรรมการโอลิมปิกสากลระบุว่า การคมนาคมมีความคล่องตัว รวดเร็ว สะดวกสบาย และมีประสิทธิภาพสูง เนื่องจากมีรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อกันทั้ง 3 เขต การเดินทางโดยรถไฟจากสถานีรถไฟปักกิ่งเหนือสู่เขตสนามแข่งขันในเอี๋ยนชิ่งใช้เวลาประมาณ 20 นาที เขตสนามแข่งขันเมืองจังเจียโข่วประมาณ 1 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังมีทางด่วน 2 สายและทางหลวงอีก 1 สายที่เชื่อมกรุงปักกิ่งกับเมืองจังเจียโข่วเข้าด้วยกันด้วย
ด้านที่พักอาศัยนั้น กรุงปักกิ่งมีความได้เปรียบอีกมาก รายงานผลการประเมินฯ ระบุว่า สำหรับที่พักกว่า 24,000 กว่าห้องตามเกณฑ์การจัดแข่งขันนั้น เมืองอัลมา-อาทายังต้องสร้างเพิ่มอีกประมาณ 16,000 ห้อง ขณะที่ปักกิ่งที่เดียวก็พร้อมด้วยห้องพักระดับ 2-5 ดาวกว่า 40, 000 ห้อง ซึ่งมากกว่าที่ต้องการในการจัดแข่งขันอย่างเหลือเฟือ ทั้งราคาเฉลี่ยก็ถูกกว่าที่อัลมา-อาทาด้วย
ส่วนด้านการประดันสุขภาพนั้น รายงานผลการประเมินฯ ระบุว่า ปักกิ่งสามารถให้บริการสุขภาพตามที่ต้องการในการจัดงานกีฬาโอลิมปิกได้ โดยไม่ต้องลดมาตรฐานหรือคุณภาพการบริการพลเมืองท้องถิ่นให้น้อยลง ขณะที่อัลมา-อาทาต้องระดมเจ้าหน้าที่แพทย์และพยาบาลจากพื้นที่อื่นๆ เข้ามาช่วยงาน ส่วนการเพิ่มบริการช่วยเหลือและรักษาพยาบาลในพื้นที่ภูเขาที่เอี๋ยนชิ่งและเมืองจังเจียโข่วให้มากขึ้น ตามที่รายงานผลการประเมินฯ เสนอนั้น นายเหมา อี่ว์ รองประธานคณะกรรมการสาธารณสุขและวางแผนครอบครัวกรุงปักกิ่งระบุว่า ปักกิ่งจะส่งหน่วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญไปประจำที่เอี๋ยนชิงและเมืองจังเจียโข่ว ทั้งจะตั้งกลไกการเคลื่อนย้ายนักกีฬาที่ได้รับบาดเจ็บอย่างมีประสิทธิผลด้วย
(TOON/LING)