ถ้าเทียบกับเมื่อ 30 ปีก่อนแล้ว รอยทางการดำเนินชีวิตของคนจีนจะปรากฏเป็นแบบเส้นตรงที่ลากเชื่อมระหว่างจุด 2 จุด คือ จากบ้านไปที่ทำงานและจากที่ทำงานกลับบ้าน แต่ปัจจุบัน คนจีนส่วนใหญ่กลายเป็นแบบ "3 จุดหนึ่งเส้น" หรือหลายจุดจนกลายเป็นวงกลมไปแล้ว
เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีรายงานสถิติจาก "ตีตี" แอพเรียกรถยอดนิยมของจีนแสดงให้เห็นว่า ปัจจุบันคนจีนใน 4 หัวเมืองใหญ่ ได้แก่ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว เซินเจิ้น ต่างมีระดับการติดบ้านลดน้อยลง โดยผู้ที่เลิกงานแล้วมุ่งตรงกลับบ้านทานข้าวมีไม่ถึงครึ่ง ยิ่งในย่านที่บริษัทไอทีและอินเตอร์เน็ตกระจุกตัวอยู่ อัตราผู้เลิกงานแล้วกลับไปทานข้าวที่บ้านมีเพียงแค่ 1 ใน 4 เท่านั้น โดยหลังเลิกงานแล้วคนปักกิ่งที่ไม่กลับบ้านทันที จะเคลื่อนตัวจากที่ทำงานในย่านธุรกิจไปกระจุกตัวยังย่านบริโภคจับจ่ายใช้สอยแทน และหลังสี่ทุ่มไปแล้วจึงค่อยทยอยกลับไปยังย่านที่พักอาศัย ซึ่งช่วงสี่ทุ่มจะเป็นช่วงที่มีการเรียกรถสูงสุดในแต่ละวัน
ข้อมูลสถิติยังชี้ว่า ช่วงเวลา 6 – 7 โมงเย็น คนในเมืองใหญ่ทั้ง 4 เลิกงานแล้วมุ่งกลับบ้าน ในปักกิ่งมีเท่ากับร้อยละ 38 คนเซินเจิ้นร้อยละ 45 คนกว่างโจวร้อยละ 44 และคนเซี่ยงไฮ้ร้อยละ 45 จะเห็นได้ว่าคนปักกิ่งเลิกงานแล้วไม่กลับบ้านเป็นสัดส่วนสูงที่สุด กล่าวในอีกแง่หนึ่งก็คือ คนเซี่ยงไฮ้ติดบ้านมากสุด ส่วนคนปักกิ่งน้อยสุด ซึ่งเมื่อเทียบกับเมืองระดับสองและสาม ผู้ที่เลิกงานแล้วกลับบ้านจะสูงกว่า โดยมีสัดส่วนเท่ากับร้อยละ 58
ถ้าพิจารณาจากเพศปรากฏว่า สตรีเซี่ยงไฮ้เลิกงานแล้วมุ่งกลับบ้านเป็นร้อยละ 68 สตรีกว่างโจวร้อยละ 54 สตรีเซินเจิ้นร้อยละ 50 สตรีปักกิ่งน้อยสุดคือร้อยละ 42 และถ้าพิจารณาจากอายุจะพบว่า ผู้ที่อายุยิ่งมากจะยิ่งติดบ้านมากกว่า โดยคนรุ่นปี 70 กลับบ้านทานข้าวมีกว่าร้อยละ 60 ส่วนคนรุ่นปี 80 มีร้อยละ 58 และคนรุ่นปี 90 มีร้อยละ 41 เท่านั้น
และภายหลังจากทำงานติดต่อกันมาทั้งสัปดาห์ ทุกคนย่อมอยากที่จะพักให้ผ่อนคลายสักหน่อย ซึ่งการกลับบ้านน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แต่จากสถิติแสดงให้เห็น เย็นวันศุกร์หลังเลิกงาน อัตราคนเมืองใหญ่ที่เลิกงานแล้วไม่กลับบ้านทันทียิ่งเพิ่มสูงขึ้น แสดงให้เห็นว่าการนัดออกไปทานอาหารหรือพบปะสังสรรค์ข้างนอก เป็นแนวทางผ่อนคลายของคนเมืองในปัจจุบัน
เก่าเล่าไปใหม่บอกมา โดย วังฟ้า 羅勇府
ลิงค์ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
เก่าเล่าไป ใหม่บอกมา:พลเมืองปักกิ่งกว่าครึ่งอยู่นอกวงแหวน 5
https://thai.cri.cn/247/2015/05/26/102s232783.htm