"มาจากกรุงเทพฯ มาร่วมงานนี้เป็นปีที่ 3 ขายดี มีลูกค้าเยอะ มีลูกค้าเก่าแวะเวียนเข้ามา และเป็นงานที่มีลูกค้าเยอะที่สุด สินค้าของเราจะเป็นพลอย ทับทิม เป็นพลอยไทย บุษราคัม ลูกค้าจะชื่นชอบเครื่องประดับที่มีดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของคนไทย เลยทำให้ลูกค้าเก่าจดจำเรา กลับมาแวะเวียนเข้ามาเลือกซื้อของอยู่เรื่อยๆ ตอนแรกยังเป็นห่วงว่าฮอลล์ใหญ่ลูกค้าจะเดินหมดไหม แต่กลายเป็นว่ายิ่งฮอลล์ใหญ่คนเดินยิ่งเยอะ ขอชื่นชมการประชาสัมพันธ์งานของคุนหมิงมากๆ เลย ไม่ว่าจะไปที่ไหนจะเห็นป้ายโฆษณาของงานมากๆ ทำให้ลูกค้าเก่ามาเดินแล้วยังได้ลูกค้าใหม่มาเดิน และมีคนในมณฑลอื่นๆ มาเดินอีก รู้สึกประสบความสำเร็จกับจำนวนผู้ที่เข้ามาชมงานมากๆ เลย ราคาเมื่อเทียบกับที่ขายในประเทศไทยก็ใกล้เคียงกัน ไม่แพง เพราะอยู่เมืองไทยเราก็มีค่าใช้จ่ายค่าร้าน อยู่ที่นี่ถามว่าบูธแพงไหม ก็ำไม่ได้แพงมากจนรับไม่ได้ คือราคาสมเหตุสมผลกับค่าบูธ ทำให้เราไม่ต้องขึ้นราคาสินค้าเยอะ"
"ร้านชื่อฉู่หลิวเซียง ทุเรียนเนื้อทองอบกรอบ การตั้งชื่อเป็นชื่อจีนเพราะอยากขายคนจีน อยากเจาะกลุ่มเป้าหมายหลักคือตลาดจีน อยากให้คนจีนจำชื่อได้ ตอนนี้มีตัวแทนจำหน่ายอยู่ที่กว่างโจวหนึ่งเจ้า ขายหนึ่งเดือนสองตู้คอนเทเนอร์ ประมาณ 2 หมื่นซอง น้ำหนักซองละ100 กรัม เป็นซองเล็ก ยังมี 210 กรัมเป็นซองใหญ่ คนจีนชอบมาก เราเลือกทุเรียนที่สุกพอดี และเอามาอบแล้วดึงน้ำออก รสชาติจะคงอยู่ สารอาหารจะคงอยู่หมด ไม่ปรุงแต่งอะไรเลย น้ำตาลไม่ใส่ แป้งไม่ใส่ เป็นทุเรียนสดๆ เอามาอบ ลูกค้าตอนแรกเขาบอกว่าขายซองละ 75 หยวนแพงเกินไป แต่พอชิมเสร็จแล้วเขาซื้อทีเดียว 3 ห่อ วันนี้ขายหมดแล้ว ขายดีเกินคาด ไม่คิดว่าจะขายดีขนาดนี้ ตอนแรกคิดว่าจะขายดีแต่จะไม่ดีมากเท่านี้ นอกจากมีทุเรียนอบกรอบแล้ว เดือนหน้าจะทำมาใหม่คือข้าวหอมอบกรอบรสต้มยำกุ้ง คนจีนชอบรสต้มยำกุ้ง จะเป็นข้าวหอมเป็นเม็ดๆ อบเหมือนกัน ไม่ได้ทอด ไม่มีน้ำมัน เรามีร้านเถาเป่าด้วย ชื่อเนื้อทอง ถ้าเข้าไปหาในเถาเป่าก็เซิร์ชว่า ฉู่หลิวเซียง คืออยากได้ตัวแทนจำหน่ายมณฑลละหนึ่งตัวแทน ตอนนี้กำลังขยายตลาดให้ไปทั่วจีน ตอนนี้ใช้ wechat เป็นหลัก อยากให้ขึ้นห้าง รู้สึกงานนี้ดีมาก ตอนแรกไม่คิดว่าจะขายดีขนาดนี้ รัฐบาลจัดงานใหญ่มาก คนเยอะมากทุกวัน เพิ่งมาครั้งนี้เป็นครั้งแรก ขายดีเกินคาด เอาเท่าไรมาก็หมด เอามาน้อยเกินไป ปีหน้าจะมาอีก ปีหน้าจะเอาของมาเยอะกว่านี้"
ฟังแล้วสนุก เหมือนเดินไปซื้อของจริงๆ เลย คิดว่าบรรยากาศการต่องรองราคาคงจะสนุกสนานคึกคักมาก เพราะแสดงถึงการมีชีวิตชีวา และเป็นการแสดงออกของทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ที่สำคัญคือได้มีปฏิสัมพันธ์กัน การต่อรองบางทีทำให้คนซื้อกัยคนขายรู้จักกัน และชอบอัธยาสัยไมตรีต่อกัน ท้ายสุดก็จะตามไปซื้อ ก็เป็นเสน่ห์อีกอย่าง และเสน่ห์ของพ่อค้าแม่ค้าไทยอย่างหนึ่งคือ อัธยาสัยดี ไม่ว่าลูกค้าจะต่อรองกันอย่างไร ไม่โกรธไม่ว่าไม่ดุ ยิ้ม บางทีต่อรองจนกระทั่งคนขายจะอ้อนวอนคนซื้อว่า ไม่ได้แล้วจริงๆ ได้โปรดเถอะ ราคานี้ถูกกว่าที่เมืองไทยแล้ว เป็นเอกลักษณ์อีกแบบหนึ่ง ทำให้คนซื้อจะรู้สึกว่า ต่อนิดต่อหน่อย ต่อได้ก็ดี แต่ถ้าต่อไม่ได้ รักจริงๆ ยังไงซะก็ซื้อ บางคนเราไม่ได้ซื้อของของเขา แต่เขาอยากได้เราเป็นเพื่อน อยากแอ๊ดวีแชทของเรา เพราะเขารู้ว่าสมัยนี้ถ้าอยากจะทำการค้ากับจีนก็ต้องใช้สื่อสังคมออนไลน์ที่คนจีนใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุด ดังนั้นในปัจจุบัน เวลาจะพิมพ์นามบัตรแจก จะพิมพ์แต่เฉพาะอีเมลกับเบอร์โทรศัพท์ไม่ได้แล้ว ต้องพิมพ์ไอดีของวีแชท เพื่อสามารถติดต่อกับคนจีนได้อย่างดี สังเกตได้เลยว่า ร้านที่ขายดีส่วนใหญ่เขารู้จักใช้วิธีติดต่อการค้ากับคนจีนผ่านวีแชท เพราะประสิทธิภาพสูงสุด