ร้านซ่อมรองเท้าที่มีความจริงใจที่สุดในเมืองนานกิง
ราคาสินค้าทุกวันนี้กับเมื่อ 28 ปีก่อนพูดได้ว่าต่างกันราวฟ้ากับดิน ที่เมืองนานกิง มีสามีภรรยาคู่หนึ่งทำอาชีพขัด และซ่อมรองเท้า ตั้งแต่ปี 1987 เป็นต้นมา ร้านซ่อมรองเท้าของพวกเขาไม่เคยย้ายไปที่อื่น และค่าบริการขัดรองเท้าก็ไม่เคยขึ้น พวกเขาเก็บเพียงคู่ละหยวนในช่วง 28 ปีมานี้ ร้านนี้จึงได้รับการยกย่องว่าเป็นร้านซ่อมรองเท้าที่มีความจริงใจที่สุดในเมืองนานกิง และได้รับการอุดหนุนจากลูกค้าจำนวนมาก
ราคาถูกก็จริง แต่มีลูกค้าเยอะ
ร้านซ่อมรองเท้านี้ตั้งอยู่ข้างหน้าตึกหัวหยาง ถนนกู่โหลเมืองนานกิง สามีภรรยาคู่นี้ทำมาหากินที่นี่ตลอดช่วง 28 ปีมานี้ ภรรยาผู้เป็นเจ้าของร้านนี้ชื่ออู๋ ผิง วัยเกือบ 50 ปี ร้านซ่อมรองเท้าของเธอดูบ้านๆ มีเก้าอี้ 6 ตัว อู๋ผิงให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า คนที่บ้านมีฝีมือซ่อมรองเท้า ฉันเรียนรู้มาแล้วก็ทำอาชีพนี้ตั้งแต่ปี 1987 ต่อมาสามีตกงาน เลยทำมาหากินกับฉันที่นี่ด้วย
อู๋ผิงเล่าว่า ทีแรกมีคนมาใช้บริการขัดรองเท้าไม่มาก ค่าบริการในขณะนั้นคือ 1 หยวน หลายสิบปีผ่านไป ความคิดของผู้คนก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ นิยมขัดรองเท้ามากขึ้น ราคาเช็ดค่ายริการของเราไม่ได้เปลี่ยน คือเก็บเพียงหยวนเดียวเท่านั้น แม้ราคาถูกก็จริง แต่เรามีลูกค้าเยอะมาก
ลูกค้าใหม่ไม่เชื่อว่าค่าบริการเท่านี้
หลายปีมานี้ อู๋ ผิงกับสามีเก็บค่าขัดรองเท้าเพียงหยวนเดียวมาโดยตลอด ค่าซ่อมรองเท้าก็ไม่เกินสิบหยวน อู๋ ผิงกล่าวว่า เงินทองนั้นพอกินพอใช้ก็พอแล้ว ลูกค้าที่อุดหนุนเราส่วนใหญ่เป็นลูกค้าเก่าที่รู้จักหลายปี เราทำใจไม่ได้ที่จะขึ้นราคา คนอื่นจะขึ้นเท่าไหร่เป็นเรื่องของเขา เราไม่ขึ้น
ความจริงใจของสามีภรรยาคู่นี้สร้างความประทับใจแก่ลูกค้ามาก ลูกค้าใหม่บางคนไม่เชื่อเลยว่าเก็บเพียงหยวนเดียว บางคนใช้บริการแล้วยอมขัดใจสามีภรรยาเจ้าของร้านด้วยการจ่ายเพิ่มให้ เพราะเห็นว่าชีวิตสามีภรรยาคู่นี้ไม่ง่ายทีเดียว
ระหว่างขัด หรือซ่อมรองเท้า ลูกค้าบางคนจะฝากของไว้กับอู๋ ผิงและไปจ่ายตลาดต่อ บางคนยังฝากให้รับพัสดุไปรษณีย์ด้วย เมื่อรู้ว่าทุกวันนี้การช่วยรับพัสดุต้องจ่ายสตางค์ด้วย อู๋ ผิงหัวเราะ และถามว่า มองแต่เงินทอง ชีวิตจะมีความหมายได้อย่างไร
(In/cici)