ความเป็นมาของเส้นทางสายไหม ตอนที่ 2 (2)
  2015-08-25 14:29:04  cri

เมื่อปี 200 ก่อนคริต์ศักราช จักรพรรดิหลิว ปัง จักรพรรดิองค์แรกแห่งราชวงศ์ฮั่นยกทัพโจมตีกองทัพของชนเผ่าซงหนู แต่ไม่สำเร็จ จึงหันมาใช้วิธีการปรองดองกับชนเผ่าซงหนู เช่น ส่งนางสนมไปแต่งงานกับหัวหน้าชนเผ่าซงหนู และมอบของกำนัลจำนวนมากให้แก่ชนเผ่า ซงหนูเป็นประจำทุกปี เพื่อให้พื้นที่ชายแดนภาคเหนือของราชวงศ์ฮั่นกลับคืนสู่ภาวะสงบเรียบร้อย แต่ชนเผ่าซงหนู่ยังคงไม่ยุติการก่อกวน รุกรานพื้นที่ชายแดนภาคเหนือของราชวงศ์ฮั่น ทำให้ประชาชนในพื้นที่ชายแดนภาคเหนือเดือดร้อนมาก

ครั้นสมัยจักรพรรดิฮั่นอู่ตี้ (138 ปีก่อนคริสต์ศักราช) จักรพรรดิฮั่นอู่ตี้ทรงมีรับสั่งให้ จังเชียน นักการทูตที่มีชื่อเสียงโด่งดังในสมัยราชวงศ์ฮั่นเดินทางไปยังดินแดนทางทิศตะวันตก โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีกับชนเผ่าต้าเย่ว์จือ เพื่อจะได้ช่วยกันปราบปรามชนเผ่าซงหนู ซึ่งเป็นศัตรูร่วมกัน

จังเชียนออกเดินทางจากเมืองฉางอาน ซึ่งก็คือเมืองซีอานในปัจจุบัน พร้อมด้วยคณะอีกร้อยกว่าคน และของมีค่าที่จักรพรรดิฮั่นอู่ตี้ทรงมีรับสั่งให้นำไปมอบให้กับประเทศต่างๆ ที่จังเชียนเดินทางไปถึง แต่เมื่อจังเชียนเดินทางออกจากเมืองฉางอานไม่นาน ถูกทหารซงหนูจับตัวไว้ระหว่างทาง

พวกซงหนูพยายามโน้มน้าวให้จังเชียนสวามิภักดิ์ แต่จังเชียนไม่เคยลืมภารกิจที่ได้รับมอบหมายมา คิดหาทางที่จะหนีจากค่ายทหารของซงหนูอยู่ตลอดเวลา จังเชียนถูกกักตัวอยู่นานกว่าสิบปี สุดท้ายก็หนีออกมาได้ จากนั้นจึงเดินทางต่อยังแหล่งที่อยู่อาศัยของชนเผ่าต้าเย่ว์จือ ซึ่งเป็นประเทศอุซเบกิสถานในปัจจุบัน เพื่อแสวงหาความร่วมมือในการสู้รบกับชนเผ่าซงหนูต่อไป

อย่างไรก็ตาม เมื่อจังเชียนเดินทางไปถึงแหล่งที่อยู่อาศัยเดิมของชนเผ่าต้าเย่ว์จือกลับพบว่า ชนเผ่าต้าเย่ว์จือได้อพยพไปยังพื้นที่ตะวันตก ซึ่งเป็นประเทศอัฟกานิสถานในปัจจุบันแล้ว หลังจากถูกชนเผ่าซงหนูบุกโจมตี

แต่จังเชียนยังคงยืนหยัดจะปฏิบัติภารกิจต่อไป โดยเดินทาง

ตามหารอยของชนเผ่าต้าเยว์จือ จนพบกับผู้นำของต้าเย่ว์จือในที่สุด ทว่า ด้วยความหวาดกลัวกับความฉกาจฉกรรจ์และป่าเถื่อนในการรบของชนเผ่าซงหนู ประกอบกับช่วงเวลานั้น ชนเผ่าต้าเยว์จือมีความสงบสุขดีแล้ว ไม่ต้องการทำสงครามกับชนเผ่าซงหนูอีก ผู้นำต้าเย่ว์จือจึงตอบปฏิเสธที่จะร่วมมือกับราชวงศ์ฮั่นในการสู้รบกับชนเผ่าซงหนู จังเชียงจึงต้องเดินทางกลับโดยคว้าน้ำเหลว

หลังออกจากพื้นที่ของต้าเย่ว์จือ จังเชียนก็เดินทางกลับมายังเมืองฉางอาน ระหว่างทางถูกชาวซงหนูจับตัวไปกักขังอีกหลายปี ในที่สุดก็สามารถหนีออกมาได้ และเดินทางกลับถึงเมืองฉางอานใน 126 ปีก่อนคริสต์ศักราช รวมเวลาเดินทางทั้งสิ้นถึง 13 ปี

ถึงแม้การเดินทางไปปฏิบัติภารกิจของจังเชียนครั้งนี้ไม่สามารถประสบความสำเร็จ แต่จังเชียนและคณะได้เรียนรู้ข้อมูลต่างๆ มากมายเกี่ยวกับดินแดนทางตะวันตก นับเป็นการเปิดโลกทัศน์ใหม่ให้แก่เหล่าผู้นำในสมัยนั้น นักประวัติศาสตร์จีนส่วนใหญ่จึงเห็นว่า การเดินทางไปดินแดนตะวันตกของจังเชียนในครั้งนี้เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้มีเส้นทางสายไหมเกิดขึ้น

หลังจากกลับมาถึงฉางอานได้ไม่กี่ปี ต่อมาในปี 119 ก่อนคริสต์ศักราช จักรพรรดิฮั่นอู่ตี้ส่งจังเชียนไปปฏิบัติภารกิจทางการทูตกับประเทศในดินแดนตะวันตกอีกครั้ง โดยมีเป้าประสงค์ที่จะพัฒนาความสัมพันธ์กับชนเผ่าอูซุน เพื่อร่วมกันสู้รบกับชนเผ่าซงหนู

การเดินทางครั้งนี้ คณะของจังเชียนมีทั้งหมดประมาณ 300 คน พร้อมม้า วัว แพะนับหมื่นตัว และเครื่องทอง แพรพรรณจำนวนมาก เพื่อเป็นของกำนัลมอบให้แก่หัวหน้าชนเผ่าอูซุน

อย่างไรก็ตาม หลังจากได้พบ หัวหน้าชนเผ่าอูซุนไม่ยอมร่วมกับราชวงศ์ฮั่นในการสู้รบกับชนเผ่าซงหนู เพราะเกรงกลัวอิทธิพลของพวกซงหนู ภารกิจในการผูกมิตรกับชนเผ่าต่างๆ ในดินแดนตะวันตก เพื่อร่วมกันสู้รบกับชนเผ่าซงหนูครั้งนี้จึงคว้าน้ำเหลวเช่นเดียวกับครั้งแรก อย่างไรก็ตาม การเดินทางไปติดต่อกับชนเผ่าอูซุน และชนเผ่าอีกหลายกลุ่มในดินแดนตะวันตกครั้งนี้ ได้สร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดขึ้น และเริ่มมีการแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรมกับชนเผ่าและอีกหลายประเทศในดินแดนตะวันตก

การเดินทางไปดินแดนตะวันตก เพื่อปฏิบัติภารกิจทางการทูตของจังเชียน แม้จะไม่สามารถประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย คือ แสวงหาการสนับสนุนจากชนเผ่าและประเทศต่างๆ ในดินแดนตะวันตก เพื่อร่วมกันสู้รบกับชนเผ่าซงหนู แต่การเดินทางบุกเบิกดินแดนตะวันตกในครั้งแรก และครั้งที่สองของจังเชียน ถือเป็นจุดเริ่มต้นแห่งการไปมาหาสู่กันระหว่างจีนกับประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ทางทิศตะวันตก

ปัจจุบัน นักประวัติศาสตร์จีนส่วนใหญ่เห็นว่า การเดินทางไปดินแดนตะวันตกทั้งสองครั้งของจังเชียนเป็นจุดเริ่มต้นแห่งการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างจีนกับต่างประเทศ จังเชียนเป็นนักการทูตผู้ยิ่งใหญ่คนแรกในประวัติศาสตร์จีน

การเดินทางสู่ดินแดนตะวันตกของจังเชียนยังสร้างความปลอดภัยให้กับเส้นทางที่เชื่อมดินแดนตะวันตกกับเมืองฉางอานของจีน นับเป็นการเปิดเส้นทางการค้าระหว่างจีนกับดินแดนทางทิศตะวันตกขึ้นมาใหม่และนี่ก็คือ เส้นทางสายไหม

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040