ระหว่างการประชุมรัฐมนตรีการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางกลุ่มจี 20 ครั้งนี้ นายโจว เสี่ยวชวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนได้ชี้แจงเรื่องค่าเงินหยวนเป็นการเฉพาะ เขาระบุว่า เนื่องด้วยผลกระทบซึ่งกันและกันของตลาดการเงิน ธนาคารกลางจีนได้ปฏิรูปกลไกกำหนดราคากลางของค่าเงินหยวนเมื่อวันที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา ให้ตลาดเป็นผู้กำหนดค่าเงินมากขึ้น นับเป็นก้าวสำคัญในการกำหนดค่าเงินหยวนตามกลไกตลาดมากขึ้น ด้วยผลกระทบจากช่วงก่อนหน้านี้ที่ค่าเงินเหรียญสหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นและค่าเงินของประเทศที่เจริญขึ้นใหม่อ่อนค่าลงตามๆ กัน ซึ่งทำให้ค่าเงินหยวนแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย แต่ภายหลังการปฏิรูปแล้ว ค่าเงินหยวนมีการอ่อนค่าลงในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจจีนในขั้นพื้นฐานไม่ได้เกิดการเปลี่ยนแปลง การค้าต่างประเทศยังคงมีดุลค่อนข้างมาก ค่าเงินหยวนจึงจะไม่อ่อนค่าลงในระยะยาว สำหรับการชี้แจงดังกล่าว นายจาง ลี่ฉวิน นักวิจัยสำนักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาค ศูนย์วิจัยการพัฒนาแห่งคณะรัฐมนตรีจีนระบุว่า การชี้แจงดังกล่าวของผู้ว่าการธนาคารกลางจีนจะมีส่วนช่วยสร้างความมั่นคงของตลาดการเงิน เขาระบุว่า
"การชี้แจงดังกล่าวมีส่วนช่วยสร้างความมั่นคงสำหรับทิศทางการเปลี่ยนแปลงของตลาดหลักทรัพย์และค่าเงิน แนวโน้มในช่วงระยะอันใกล้นี้โดยรวมแล้วมีความมั่นคง ตลาดหลักทรัพย์ในเวลานี้ได้ปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับกว่า 3,000 จุด ภาวะฟองสบู่ไม่มากแล้ว ส่วนค่าเงินนั้น เวลานี้มีการปรับนโยบายการเงิน ค่าเงินหยวนโดยรวมก็มีความมั่นคงดี มีความเป็นไปได้ไม่มากที่จะแข็งค่าหรืออ่อนค่าในอัตราที่มาก"
ระหว่างการประชุมครั้งนี้ นายโหลว จี้เหว่ย รัฐมนตรีการคลังจีนระบุว่า เวลานี้ ภาวะเศรษฐกิจจีนยังคงอยู่ในการคาดการณ์ อัตราการเติบโตจะคงไว้ซึ่งประมาณร้อยละ 7 ซึ่งคาดว่าจะเป็นเช่นนี้ 4-5 ปีนี้ ทั้งนี้ นายเหลียน ผิง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ธนาคารเจียวทงระบุว่า อัตราการเติบโตที่ร้อยละ 7 นั้น แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจของรัฐบาลจีน และสื่อสัญญาณการพัฒนาเศรษฐกิจของจีนในอนาคต
(YIM/LING)