เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา นายอิกอร์ โคนาเซนคอฟ(Igor Konashenkov) โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวว่า เครื่องบินรบของรัสเซียกว่า 50 ลำได้ร่วมปฏิบัติการทางทหารโจมตีเป้าหมายกลุ่มไอซิสในดินแดนซีเรีย
นายโคนาเซนคอฟกล่าวกับสื่อมวลชนว่า รัสเซียเริ่มโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายกลุ่มไอซิสตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา โดยได้ส่งเครื่องบินรบกว่า 20 ลำ โจมตีเป้าหมาย 8 แห่ง ส่วนในเวลากลางคืนส่งเครื่องบินรบอีก 8 ลำโจมตีเป้าหมาย 4 แห่ง
โดยในการโจมตีเมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา ฝ่ายรัสเซียได้ทำลายฐานที่มั่นของกลุ่มไอซิสหลายแห่ง รวมถึงกองบัญชาการกลุ่มไอซิสในภาคตะวันตกเฉียงเหนือ โรงงานผลิตกระสุน ดินระเบิดและอุปกรณ์ก่อเหตุระเบิดในภาคกลางของซีเรีย
นายโคนาเซนคอฟกล่าวด้วยว่า รัสเซียใช้อุปกรณ์สอดแนมในอวกาศและเครื่องบินไร้คนขับ จึงยืนยันได้ว่าได้รับข้อมูลที่น่าเชื่อถือก่อนดำเนินการโจมตี
ด้านกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯประกาศเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า สหรัฐฯ กับรัสเซียได้จัดการเจรจารอบแรกเกี่ยวกับการหลีกเลี่ยงการปะทะที่เกิดขึ้นจากการโจมตีกลุ่มไอซิสในซีเรีย
โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงว่า การเจรจาระหว่างกระทรวงกลาโหมสองประเทศใช้เวลานานประมาณ 1 ชั่วโมง เนื้อหาหลักคือ กำหนดกลไกปฏิบัติการทางทหารในน่านฟ้าซีเรีย เพื่อไม่ให้เกิดการตัดสินใจผิดในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ของแต่ละฝ่าย และหลีกเลี่ยงไม่ให้สถานการณ์ตึงเครียดยิ่งขึ้น
โฆษกผู้นี้ยังกล่าวว่า แม้รัสเซียจะเรียกร้องห้ามเครื่องบินรบของสหรัฐฯ และประเทศภาคีบินขึ้นเหนือน่านฟ้าซีเรียก่อนการปฏิบัติหน้าที่โจมตีทางอากาศครั้งแรกของรัสเซีย แต่ข้อเรียกร้องดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อสหรัฐฯ ในการปฏิบัติหน้าที่โจมตีทางอากาศในซีเรีย
Toon/LR