สำนักข่าวซินหวารายงานว่า วันที่ 15 ตุลาคมนี้ นายสี จิ้นผิง เลขาธิการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ ประธานาธิบดีจีนพบกับผู้แทนพรรคการเมืองต่างชาติบางส่วนที่เดินทางมาร่วมประชุมพรรคการเมืองเอเชียว่าด้วยเส้นทางสายไหมที่กรุงปักกิ่ง
โดยนายสี จิ้นผิง กล่าวว่า ผู้ร่วมประชุมครั้งนี้ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นร่วมสร้าง "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" เพื่อเร่งพัฒนาเส้นทางสายไหมอีกครั้ง ส่งเสริมการพัฒนาร่วมกัน ทั้งนี้มีความหมายสำคัญยิ่งต่อสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะไม่เพียงแต่มีส่วนช่วยต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศต่างๆ ตามเส้นทางสายไหมเท่านั้น หากยังเป็นประโยชน์กับการแลกเปลี่ยนทางอารยธรรม ส่งเสริมการพัฒนา และรักษาสันติภาพของโลกด้วย การดำเนินโครงการ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" จึงเป็นภารกิจอันยิ่งใหญ่ที่จะสร้างความผาสุกให้แก่ประชาชนประเทศ ต่างๆ ตามเส้นทางสายไหม เชื่อมั่นว่า ประชุมครั้งนี้จะเป็นประโยชน์มากต่อการขับเคลื่อนการพัฒนาโครงการ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" และการส่งเสริมการพัฒนาร่วมกันของประเทศต่างๆ ตามเส้นทางสายไหม
นายสี จิ้นผิงยังกล่าวอีกว่า ช่วงสองปีของการริเริ่มโครงการ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ได้รับการตอบรับอย่างดีจากกว่า 60 ประเทศตามสายทางดังกล่าว และกำลังปรากฏผลให้เห็นในเบื้องต้น การดำเนินโครงการ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" จะยึดหลักดังนี้ คือ ร่วมสร้าง ร่วมรับประโยชน์ เปิดกว้าง เรียนรู้กัน และอำนวยประโยชน์แก่กัน เพื่อบรรลุเป้าหมายเป็นประโยชน์ต่อทุกประเทศ และพัฒนาร่วมกัน นอกจากนี้ ยังยึดหลักมุ่งสร้างความผาสุกให้แก่ประชาชน โดยจะนำประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมให้แก่ประชาชนของประเทศต่างๆ ตามเส้นทางสายไหม
นายสี จิ้นผิงเผยว่า การส่งเสริมโครงการ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" เป็นเนื้อหาสำคัญของแผนพัฒนาสังคม และเศรษฐกิจแห่งชาติจีน (ปี2016-2020) ฉบับที่ 13 จากแนวคิดที่จะ
ผูกมิตร มีความจริงใจ สร้างประโยชน์ และเปิดรับประเทศรอบข้าง
จีนจะยึดแนวทางการทูตที่เป็นมิตรและเป็นหุ้นส่วนกับประเทศรอบข้าง จะดำเนินนโยบายต่างประเทศที่สนับสนุนประเทศรอบข้างให้มี เสถียรภาพ และความมั่งคั่ง จากแนวทางและนโยบายต่างประเทศดังกล่าว จีนจะเชิญชวนประเทศต่างๆ ร่วมดำเนินโครงการ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" เพื่อขับเคลื่อนความร่วมมือของภูมิภาค จีนยินดีให้ประเทศต่าๆ ร่วมขบวนรถไฟแห่งการพัฒนาของจีน เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาร่วมกัน
หัวหน้าคณะผู้แทนจากพรรคการเมืองของประเทศต่างๆ ที่ร่วมประชุมครั้งนี้มีความเห็นพ้องกันว่า โครงการ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง"ที่ริเริ่มโดยประธานาธิบดีสี จินผิง เป็นการริเริ่มที่ยิ่งใหญ่มาก เพราะจะสร้างโอกาสเชิงประวัติศาสตร์ให้แก่ความเจริญรุ่งเรืองและการ พัฒนาร่วมกันของประเทศต่างๆ ตามเส้นทางสายไหม อีกทั้งประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียและยุโรปด้วย
(IN/cai)