หนังสือพิมพ์เหริน หมินรึเป้ารายงานว่า ระหว่างวันที่ 19-23 ตุลาคมนี้ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนเยืนอังกฤษตามคำเชิญของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ นับเป็นครั้งแรกที่ประธานาธิบดีจีนเยือนอังกฤษอย่างเป็นทางการในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา และเป็นปฏิบัติการทางการทูตที่สำคัญต่อยุโรปอีกครั้งหนึ่งของจีน นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว โดยได้บรรยายความหมายและผลสำเร็จของการเยือนอังกฤษของนายสี จิ้นผิงครั้งนี้
นายหวัง อี้ กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีสำคัญในกระบวนการสันติภาพและการพัฒนาของโลก จีนกับอังกฤษต่างมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง ประการแรก ปีนี้เป็นปีครบรอบ 70 ปีชัยชนะสงครามต่อต้านฟาสซิสต์โลก จีน อังกฤษ และประเทศอื่นๆ อีกหลายประเทศต่างมีกิจกรรมรำลึก ประวัติศาสตร์สอนพวกเราว่า การพัฒนาอย่างสันติ ร่วมมือกันเพื่อชนะร่วมกัน จึงเป็นวิธีการพัฒนาที่ถูกต้อง
ประการที่สอง ปีนี้เป็นปีครอบรอบ 70 ปีแห่งการก่อตั้งสหประชาชาติ เดือนกันยายนที่ผ่านมา ผู้นำประเทศต่างๆ รวมตัวกันที่นครนิวยอร์ก และร่วมกันวางแนวคิดเกี่ยวกับการสร้างอนาคตที่ดีขึ้นให้มวลมนุษย์ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนได้บรรยายข้อเสนอของจีนในการสร้างความสัมพันธ์แบบใหม่ระหว่างประเทศ โดยเน้นว่า ควรสร้างความสัมพันธ์ฉันหุ้นส่วนที่ปฏิบัติต่อกันอย่างเสภอภาคและปรึกษาหารือกัน สร้างสถานการณ์ความมั่นคงที่มีความเที่ยงธรรม ยุติธรรม และแบ่งปันกัน แสวงหาอนาคตการพัฒนาที่เปิดกว้าง มีนวัตกรรม อดทน และเอื้อประโยชน์แก่กัน ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมที่แสวงหาจุดร่วม สงสนจุดต่าง และเรียนรู้ความยอดเยี่ยมของฝ่ายอื่น สร้างระบบนิเวศที่เคารพธรรมชาติ และพัฒนาอย่างอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการสร้างสรรค์ทางเศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม สังคม และภาวะนิเวศด้วยกัน สร้างประชาคมที่มีชะตาร่วมของมนุษย์
ประการที่สาม ในกระบวนการสร้างความสัมพันธ์แบบใหม่ระหว่างประเทศ จีนกับอังกฤษสามารถกลายเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือที่จริงใจ เพราะสองประเทศต่างเป็นประเทศสมาชิกถาวรคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และประเทศที่มีบทบาทสำคัญในโลก สองประเทศมีความคิดเห็นคล้ายกันในปัญหาระหว่างประเทศและระดับภูมิภาคหลายอย่าง ผลประโยชน์ร่วมของสองฝ่ายก็ขยายเรื่อยๆ การเยือนอังกฤษของนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนเป็นการเยือนอังฤษอีกครั้งหลัง 10 ปีผ่านไป และย่อมจะผลักดันให้สองฝ่ายมีความก้าวหน้าใหม่ๆ ในการร่วมกันสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศรูปแบบใหม่ที่ถือความร่วมมือและชนะร่วมกันเป็นหลัก
In/Ldan
