วันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา การประชุมเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกกรุงปารีสประกาศร่างข้อตกลงปารีสฉบับใหม่ โดยสรุปผลการเจรจาในช่วงหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับฉบับเก่า ร่างข้อตกลงฉบับนี้ได้ปรับปรุงเนื้อหาบางส่วนให้ชัดเจนมากขึ้น แต่โดยทั่วไปแล้วยังไม่มีผลคืบหน้ามาก และฝ่ายต่างๆ ยังคงมีความขัดแย้งกันค่อนข้างมากต่อรายละเอียดเกี่ยวกับหลักการแบ่งความรับผิดชอบ นั่นก็คือ มีภารกิจร่วมกันแต่มีความแตกต่าง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในหลักการพื้นฐานของกรอบอนุสัญญาว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งสหประชาชาติ ข้อตกลงปารีสในฐานะเอกสารทางกฎหมายของอนุสัญญาดังกล่าว ควรปฏิบัติตามหลักการนี้ แต่ความจริงคือ ฝ่ายต่างๆ มีความรับรู้ร่วมกันต่อหลักการนี้ แต่ก็ยังตกลงกันไม่ได้เกี่ยวกับการแบ่งความรับผิดชอบอย่างไร

ในประเด็นเกี่ยวกับการลดการปล่อยแก๊สเรือนกระจก ประเทศพัฒนาแล้วแสนอให้ประเทศต่างๆ ตั้งเป้าหมายของตนเพื่อแสดงความแตกต่างระหว่างกัน แทนที่จะแยกเป็นประเทศกำลังพัฒนาหรือประเทศพัฒนาแล้ว แต่ประเทศกำลังพัฒนายืนยันควรแยกประเทศกำลังพัฒนากับประเทศพัฒนาแล้วต่อไป อีกทั้งเห็นว่าประเทศพัฒนาแล้วควรขยายบทบาทแกนนำและแบกรับภารกิจช่วยเหลือประเืทศกำลังพัฒนาบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยแก็สเรือนกระจก ส่วนประเทศกำลังพัฒนาจะใช้มาตรการหลายอย่างเพื่อชะลอการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ในด้านเงินทุน ประเทศพัฒนาแล้วเห็นว่า ประเทศอื่นๆ ที่มีความสามารถก็ควรให้การสนับสนุนทางการเงินเช่นกัน แต่ประเทศกำลังพัฒนายืนยันเรื่องนี้เป็นภารกิจของประเทศพัฒนาแล้วเพียงฝ่ายเดียว

ในด้านการตรวจสอบความคืบหน้า ประเทศพัฒนาแล้วเห็นว่า ควรประเมิน ตรวจสอบและรายงานความคืบหน้าของการใช้ปฏิบัติการของประเทศกำลังพัฒนา ส่วนประเทศกำลังพัฒนายืนยันว่า การประเมินความคืบหน้าของประเทศพัฒนาแล้วกับประเทศกำลังพัฒนาไม่ควรใช้มาตฐานเดียวกัน

นายเสี้ย เจิ้นหวา ผู้แทนจีนในกิจการเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศระบุว่า ข้อตกลงปารีสควรยืนหยัดหลักการแบ่งความรับผิดชอบโดยคำนึงถึงความแตกต่าง ประเทศต่างๆ ควรร่วมกันรับมือกับปัญหาต่างๆ ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาำพภูมิอากาศ และใช้ท่าทียืดหยุ่นและสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหา