หวังข่ายเกิดที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ยเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ปี 1982 จบจากคณะการแสดงของสถาบันละครกลางจีนเมื่อปี 2007 แต่จริงๆ ครอบครัวไม่สนับสนุนหวังข่ายทำงานเป็นนักแสดง คุณพ่อของหวังข่ายชอบกีฬามาก จึงหวังว่าหวังข่ายจะยึดอาชีพทางด้านนี้ หวังข่ายเริ่มเรียนเต๊ะฟุตบอลตั้งแต่อายุ 5 ขวบ คุณพ่อยังอยากให้เขาเรียนการกระโดดน้ำ เพราะคุณพ่อมีความฝันที่เป็นนักกีฬากระโดดน้ำเมื่อยังเป็นหนุ่ม ส่วนคุณแม่หวังให้เขาเรียนเก่ง และสอบเข้ามหาวิทยาลัย แต่หวังข่ายชอบการแสดงตั้งแต่สมัยเรียน เมื่อสมัยเรียนมัธยมตอนปลาย ซึ่งต้องเรียนหนักที่สุด เขายังจัดให้เพื่อนร่วมเรียนแสดงละครเวทีที่ดัดแปลงมาจากเรื่องราวในตำราวิชาภาษาจีน เขาจึงอยากสอบเข้ามหาวิทยาลัยด้านศิลปะ แต่คุณแม่ไม่เห็นด้วย เมื่อจบโรงเรียนมัธยม ทั้งครอบครัวบังคับให้หวังข่ายทำงานที่ร้านขายหนังสือซินหวาแทนพ่อ เพราะร้านหนังสือซินหวาเป็นบริษัทภาครัฐ มีรายได้ที่ดีและมีความมั่นคงในตอนนั้น ระหว่างการทำงานที่ร้านหนังสือ หวังข่ายก็ยังเข้าร่วมงานต่างๆ ของสถานีโทรทัศน์หลายแห่ง และยังได้โอกาสถ่ายโฆษณา ผู้กำกับโฆษณาชื่นชมหวังข่ายและเห็นว่าหน้าตาดีและหุ่นดี จึงถามว่าจบจากสถาบันละครกลางจีน หรือสถาบันภาพยนตร์กรุงปักกิ่ง ซึ่งเป็นสถาบันสอนการแสดงที่ดีที่สุด 2 แห่งของจีน คำถามที่ไม่ได้ตั้งใจของผู้กำกับสร้างแรงบันดาลใจให้กับหวังข่ายอย่างเต็มที่ เขาจึงขอลาออกจากร้านขายหนังสือ เดินทางมาถึงกรุงปักกิ่งโดยไม่ได้บอกพ่อแม่ และเข้าอบรมที่สถาบันละครกลางจีน หวังข่ายกล่าวว่า เขาไปจากบ้านตั้งแต่อายุ 19 ปี บางคนอาจจะต้องโทรบอกพ่อแม่เมื่อพบปัญหาเล็กหรือปัญหาใหญ่ ให้พ่อแม่ช่วยตัดสินใจให้ แต่เขาเลือกตัดสินใจด้วยตนเองทุกอย่าง ส่วนการเป็นนักแสดงก็เป็นการตัดสินใจเหมือนกับตนเองบังคับให้พ่อแม่ต้องยอมรับ ในการพัฒนาอาชีพเป็นนักแสดง เขาก็ไม่ค่อยขอข้อเสนอจากพ่อแม่ เขาเห็นว่า พ่อแม่ไม่ได้ทำงานในวงการนี้ เพราะฉะนั้น เขาเลือกทำทุกอย่างด้วยตนเอง แต่ปัจจุบัน พ่อแม่ก็กลายเป็นแฟนของลูกชายแล้ว โดยจะดูละครทุกเรื่องที่หวังข่ายแสดง และให้ความคิดเห็นในแง่ผู้ชม บอกเขาว่า ตอนไหนแสดงได้ดีมาก ดูสบาย และตอนไหนดูแปลกๆ

หวังข่ายเริ่มเป็นที่รู้จักกันในปีนี้ แต่จริงๆ แล้ว เขาเข้าวงการบันเทิงมาหลายปีแล้ว เมื่อปี 2008 เขาได้แสดงเป็นหนุ่มกระตุ้งกระติ้งในเรื่อง "丑女无敌" (ยัยขี้เหร่อู๋ตี๋ – Ugly Betty เวอร์ชั่นจีน) ละครตลกครบรสที่นิยมมากของช่องทีวีหูหนาน การแสดงของเขาทำให้มีคนสนใจ เพราะในช่วงนั้น จีนยังไม่มีตัวละครแบบนั้นบนทีวี จึงมีละครหลายเรื่องเข้ามาหาเขา แต่ตัวละครทั้งหมดมีสไตล์เหมือนกันกับที่เขาแสดงในเรื่อง "ยัยขี้เหร่อู๋ตี๋" เขาจึงปฏิเสธ ซึ่งเมื่อปฏิเสธแล้ว ก็ไม่ค่อยมีโอกาสการแสดงอีก