เมื่อวันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา งานบทเพลงมิตรภาพจีน-อาเซียนปี 2015 ที่มีนักร้องจากจีนและ 10 ชาติอาเซียน ได้แก่ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย พม่า เวียดนาม ลาว กัมพูชา สิงคโปร์ บรูไน และไทย มาร่วมร้องเพลงด้วยกันบนเวทีโรงละคร BTV ณ กรุงปักกิ่ง ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ได้รับเสียงปรบมือและชื่นชมมากมาย

เพื่อเตรียมจัดคอนเสิร์ตครั้งนี้ ก่อนหน้านี้ คณะผู้จัดงานได้เดินทางไปค้นหาเพลงยอดฮิตที่ประเทศอาเซียนแต่ละประเทศ สำหรับประเทศไทยได้ตัดสินใจเลือกเพลง คาถามหานิยม เป็นเพลงไทยยอดฮิตที่จะนำเสนอในคอนเสิร์ตบทเพลงมิตรภาพจีน-อาเซียน ปี 2015

คุณวิไลลักษณ์ รุ่งสมัย นักสื่อสารมวลชนชำนาญการ จากสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งเป็นตัวแทนภาคสื่อมวลชนไทยที่ให้การสนับสนุนการจัดงานครั้งนี้ โดยคุณวิไลลักษณ์เป็นผู้มีส่วนร่วมกำกับดูแลงานประกวดร้องเพลงจีน-ไทยมาแล้ว 4 ครั้ง และครั้งนี้ได้ช่วยคัดเลือกและเสนอให้ใช้เพลง"คาถามหานิยม"ซึ่งมีเอกลักษณ์ความเป็นไทยอย่างมากและเป็นเพลงดังที่คนไทยก็รู้จักกันอย่างกว้างขวางมาเป็นตัวแทนขับร้องในงาน

วันนี้เราได้เชิญคุณวิไลลักษณ์ รุ่งสมัยมาร่วมพูดคุยพบกับท่านผู้ฟังกันในภายการ

ซีอาร์ไอ:สวัสดีค่ะ คุณวิไลลักษณ์ เนื่องจากประเทศไทยมีเพลงหลากหลายประเภทให้เลือก ทั้งเพลงไทยสากล ไทยลูกทุ่ง สตริง ให้เลือกสรรมากมาย เหตุใดจึงเสนอให้เลือกเพลง คาถามหานิยม

วิไลลักษณ์ รุ่งสมัย: การเข้าร่วมงานครั้งนี้ เราได้คัดเลือกเพลง คาถามหานิยม ซึ่งเป็นเพลงลูกทุ่งไทยแล้วเป็นเพลงที่เรียกว่าอมตะ คนไทยที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางทีเดียว เป็นเพลงที่สร้างชื่อเสียงให้กับนักร้องลูกทุ่ง ทั้งในอดีตมาหลายคนแล้ว โดยเฉพาะคุณยอดรัก สลักใจ ที่ร้องเพลง คาถามหานิยมแล้วทำให้ชื่อเสียงโด่งดังมาถึงทุกวันนี้ ถึงแม้ว่าคุณยอดรักเสียชีวิตไปแล้ว เพลงนี้ก็ยังโด่งดังอยู่ แล้วต่อมา ธนนท์ จำเริญ ผู้เข้าประกวดเดอะวอยซ์ไทยแลนด์คนแรกของประเทศไทยก็ได้นำเพลงนี้มาร้องในการเข้าประกวดของเขา ซึ่งเพลงนี้ทำให้คะแนนของเขาพุ่งสูงขึ้นมา ทำให้เขาได้เข้ารอบ 4 คนสุดท้ายในการคัดเลือก เข้าเป็นแชมป์เดอะวอยซ์ปีแรกของประเทศไทย และในที่สุดก็เป็นเดอะวอยซ์ปีแรกของประเทศไทย

ซีอาร์ไอ: เพลงนี้เป็นเพลงเก่าที่ขับร้องโดยคุณยอดรัก สลักใจ แต่งคำร้อง ทำนองโดยครูจิ๋ว พิจิตร เรียบเรียงเสียงประสานโดยครูประยงค์ ชื่นเย็น แล้วก็มีนักร้องท่านอื่นๆ นำมาร้องอีก คุณวิไลลักษณ์คิดว่า เหตุใดเพลงนี้จึงได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน

วิไลลักษณ์ รุ่งสมัย: สาเหตุที่เลือกเพลงนี้ให้ธนนท์ร้องก็อย่างที่บอกไป เหตุผลก็คือ เพลงนั้นมีความไพเพราะในตัวเองอยู่แล้ว เนื่องจากคนแต่งคือครูจิ๋ว พิจิตร และแต่งเพลงนี้ไว้อย่างเรียกว่าน่ารัก เพราะว่าเนื้อหาของเพลงจะบ่งบอกถึงความเชื่อของคนไทยในสมัยก่อนว่า มีความเชื่อในเรื่องของคาถาที่ให้คนรัก คนเมตตา ก็คือคาถามหานิยมนั่นเอง เหมือนกับว่า มีชายหนุ่มคนหนึ่งเกิดมาก็อยากให้หญิงสาวมารักมาหลง เพราะฉะนั้นก็ต้องไปขอคาถามหานิยมมาให้กับตัวเองเพื่อให้คนนั้นรักชอบ ซึ่งเปรียบกับในปัจจุบันนี้ คาถามหานิยมก็ไม่จำเป็นให้ผู้หญิงมารักเท่านั้น แต่ก็ให้คนเมตตาให้ผู้ใหญ่เมตตาก็ใช้ได้เช่นกันสำหรับเพลงคาถามหานิยม แล้วเพลงนี้เวลาศิลปินผู้ชายร้องเขาก็จะมีเสน่ห์ตรงท่อนที่ โอม เพราะพอร้องมาปุ๊บ เพลงนี้จึงเหมือนกับอ้อนคนฟัง ให้คนฟังรู้สึกเมตตา เพราะว่ายิ่งนักร้องหน้าตาดีๆ บุคลิกดีๆ แล้วขี้เล่นนิดๆ ก็ทำให้เพลงนี้ได้รับการชื่นชอบจากคนฟังมากทีเดียว

ซีอาร์ไอ: คุณวิไลลักษณ์มีส่วนร่วมกับการจัดงานประกวดร้องเพลงจีน-ไทยมา 4 ครั้ง เห็นว่าเพลงหรือการจัดกิจกรรมลักษณะนี้จะมีส่วนส่งเสริมและกระชับมิตรภาพระหว่างกันอย่างไร

วิไลลักษณ์ รุ่งสมัย: ในฐานะที่เป็นโปรดิวเซอร์ดนตรีมิตรภาพไทย-จีนมาแล้วถึง 4 ครั้ง ก็เห็นว่าการจัดกิจกรรมในลักษณะเช่นนี้ นอกจากจะเป็นการส่งเสริมกระชับความสัมพันธ์ระหว่าง 2 หน่วยงานระหว่าง 2 ประเทศแล้ว ก็ยังเป็นการฝึกฝนการทำงานระหว่างเจ้าหน้าที่ด้วย เพราะว่ามันเป็นการจัดกิจกรรมระหว่างประเทศ ไม่ใช่แค่ในประเทศเท่านั้น เราจะได้รู้ว่า การจัดการในแต่ละส่วนควรจะทำอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าเกิดว่า เราลงไปกำกับด้วยตัวเองแล้วจะทำให้เราได้เห็นรายละเอียดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการจัดการเรื่องคน เรื่องเพลง รวมถึงการจัดการในด้านงานศิลปะด้วยว่า การที่เราจะเลือกเพลงอย่างไรให้เหมาะสมแล้วคิดว่าคนฟังจะชอบ แล้วก็เลือกเพลงให้มันมีความสอดคล้องเหมะเจาะ แล้วที่สำคัญต้องมี ไฮไลน์ ของงานด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นศิลปะที่เราจะต้องใช้การฝึกฝน แล้วประสบการณ์พอสมควร ซึ่งจากการจัดงานที่ผ่านมา พอมาถึงการมีส่วนร่วมในบทเพลงมิตรภาพจีน-อาเซียนครั้งนี้ก็ขอชื่นชมว่า ทางจีนได้ร่วมมือกับทางกว่างซี ทีวีกว่างซี ซึ่งเคยทำงานร่วมมือกับเรา ซึ่งพอเรามาคราวนี้ก็ทำให้รู้สึกว่าเหมือนมาเจอะเพื่อนเก่าๆ ทีมงานเก่าๆ นักดนตรีชุดเดิม นักร้องบางคนก็ท่านเดิม ทำให้การทำงานของเราไม่รู้สึกยุ่งยากอะไร เพียงเราคุยกันนิดหน่อยก็เข้าใจแล้ว ซึ่งนอกเหนือจากงานบนเวที แสงสีที่ตระการตาสวยงาม อันนี้ต้องชื่นชมจีนว่าแสงสวยมาก แล้วการดูแลศิลปินนั้นดีมาก คาดหวังว่าในปีต่อไปเราคงจะมีโอกาสร่วมงานบทเพลงมิตรภาพจีน-อาเซียนอย่างนี้อีกต่อไป